ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงกว่า 2% กังวลความต้องการใช้น้ำมันลดลง หลังจีนประกาศจีดีพีปี 61 ต่ำสุดรอบ 30 ปี “ไทยออยล์” คาดสัปดาห์หน้า WTI เคลื่อนไหวกรอบ 51 – 56เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
บริษัท ไทยออยล์ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง 2% หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คาดว่าจะดำเนินต่อเนื่องไปและความกังวลหลังจากที่จีนประกาศตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของปี 2561 อยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 30ปี ซึ่งนักลงทุนมองว่า จะส่งผลให้ในปี 2563มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกและความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ตลาดยังคงจับตามองอุปทานน้ำมันดิบที่ยังคงอยู่ในระดับสูง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง จึงทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันดิบน้อยลง
อย่างไรก็คามราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปก รวมถึงปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านและเวเนซุเอลาที่ปรับตัวลดลงหลังจากถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร โดยซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลกได้ปรับลดกำลังการผลิตในเดือน ม.ค. 62ลงมาอยู่ที่ระดับ 10.24ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าเดือน ธ.ค. 61 ที่ระดับ 10.643 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปิดตลาดวันที่ 7 ก.พ. 62 อยู่ที่ 52.64 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 1.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ -2.60% ส่วนเบรนท์ปิด 61.62 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 1.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า บริษัท ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 51 – 56เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 59 – 64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล