ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้เปิดบวกตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว และจากการอ่อนตัวของค่าเงินเยน
ค่าเงินเยนอยู่ที่ 109.51 ต่อดอลลาร์
หุ้นที่นำการเพิ่มขึ้นในช่วงเปิดตลาดคือ กลุ่มน้ำมันและถ่านหิน กลุ่มสินเชื่อเพื่อการบริโภค กลุ่มประกันภัย
หุ้นโซนีในญี่ปุ่นลดลงมากกว่า 8% หลังบริษัทลดประมาณการณ์รายได้จากยอดขายกล้องถ่ายรูปและสมาร์ทโฟนลดลงมากกว่าคาด
ณ เวลา 9.20 น. ในประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอยู่ที่ 20,874.35 จุด เพิ่มขึ้น 85.96 จุด,+0.41%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 27,955.98 จุด เพิ่มขึ้น 25.24 จุด,+0.090%
ตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีนและตลาดหุ้นเกาหลีปิดทำการเนื่องในวันตรุษเกาหลี
JP Morgan Asset Management มองการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดเอเชียในเดือนมกราคมว่า เป็นเพียงการเด้งขึ้นชั่วคราวเนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ อย่างไรก็ตามมีมุมมองว่าตลาดหุ้นเอเชียมีโอกาสปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี แต่ในครึ่งปีหลังนักลงทุนต้องสำรวจสถานะลงทุนกันใหม่ เพราะแนวโน้มตลาดหุ้นยังขึ้นกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจะหนุนแรงซื้อ
แม้ธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ก็มีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นมากกว่าลดดอกเบี้ยลง
ในเดือนมกราคมดัชนี MSCI ปรับตัวขึ้น 6.8% เป็นการเริ่มต้นปีที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012
Jasslyn Yeo นักวิเคราะห์ของ JP Morgan Asset Management มองว่าตลาดหุ้นเอเชียโดยรวมยังอยู่ในขาขึ้น ยกเว้นญี่ปุ่น และประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในครึ่งปีแรก เพราะมีโอกาสที่สหรัฐกับจีนจะบรรลุข้อตกลทางการค้าเนื่องจากประธานาธิดบโดนัลด์ ทรัมป์ต้องเตรียมการเพื่อลงรับเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2020 ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์จะพบปะกับประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิงของจีนในเร็วๆนี้
สำหรับตลาดหุ้นที่ Jasslyn Yeo ให้น้ำหนักคือ จีน เกาหลีใต้และอินโดนีเซีย แต่ให้ใช้ความระมัดระวังการลงทุนกับอินเดียและฟิลิปปินส์