ฟินันเซีย ไซรัส คาดหวังปีนี้จะพลิกมีกำไรจากปีก่อนขาดทุน เพิ่มลูกค้าสถาบันในประเทศ ตั้งเป้ากลับมาเป็นอันดับหนึ่งในตลาดออนไลน์ ลงทุนด้านไอทีและบุคลากรหลายร้อยล้านบาทในปีก่อน และต่อเนื่องในปีนี้
นายช่วงชัย นะวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ฟินันเซีย ไซรัส(FSS) เปิดเผยว่า บริษัทคาดหวังว่าผลประกอบการในปีนี้จะกลับมามีกำไรได้แต่อาจจะไม่มาก จากแผนการดำเนินธุรกิจที่กำหนดไว้ ขณะที่ในปี 2561 ผลประกอบการขาดทุน ซึ่งมาจากการลงทุนด้านไอที และลูกค้าต่างประเทศที่ซื้อขายระบบ DMA หันไปซื้อขายกับโบรกเกอร์รายอื่นแทน เนื่องจากให้ค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำกว่า ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย ทำให้ลูกค้ารายย่อยชะลอการลงทุน
“ทุกปีเราจะรายได้จากค่าคอมมิชชั่นกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี แต่ในปีก่อนรายได้ค่าคอมมิชชั่นลดลงมาก แย่สุดในรอบ 10 ปี บางเดือนมีรายได้จากค่าคอมมิชชั่นประมาณ 70 ล้านบาท จากปกติในทุกปีจะมีรายได้โดยเฉลี่ยเดือนละ 100 ล้านบาท”นายช่วงชัย กล่าว
ส่วนแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดในออนไลน์เทรดดิ้งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 จากปีก่อนบริษัทอยู่ในอันดับ 2 บริษัท จากปีที่ผ่านมาได้ลงทุนด้านไอทีหลายร้อยล้านบาท รวมทั้งการออกแอพพลิเคชั่นที่ร่วมกับพันธมิตรจากเกาหลีใต้ ภายใต้ชื่อ Finansia HERO เพื่อใช้ซื้อขายหลักทรัพย์ ขณะนี้มีลูกค้าเปิดบัญชีผ่าน Finansia HERO จำนวน 5 หมื่นกว่าบัญชีและเป็นบัญชีที่ซื้อขายสม่ำเสมอประมาณ 3,000 บัญชี นอกจากนี้ก็ยังได้รับบุคลากรด้านไอทีเข้ามาเพิ่มอีก 50-60 คน เข้ามาช่วยดูแลระบบ ซึ่งการลงทุนด้านไอทีในปีนี้ คาดว่าจะไม่ต่ำกว่าปีก่อน
นายช่วงชัย กล่าวว่า ขณะนี้โบรกเกอร์จำเป็นจะต้องมีการปรับตัว เพื่อความอยู่รอด หลังจากที่มีการแข่งขันกันรุนแรง และมีการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงพฤติกรรมการของลูกค้าก็เปลี่ยนแปลงจากเดิมลูกค้าจะยึดติดกับเจ้าหน้าที่มาร์เก็ตติ้ง แต่ขณะนี้โบรกเกอร์สามารถหาลูกค้าผ่านระบบแอพพลิเคชั่นได้แล้ว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นเพิ่มลูกค้าสถาบันในประเทศมากขึ้น โดยจะมีการนำบทวิเคราะห์ที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ร่วมกับบล.บีเอ็นพี พาริพาส์ เอเซียมาหลายปีให้กับลูกค้าสถาบันในประเทศ จากเดิมจะให้เฉพาะลูกค้าต่างประเทศเท่านั้น เชื่อว่าลูกค้าสถาบันในประเทศ จะเพิ่มขึ้นได้ประมาณเท่าตัว ซึ่งรายได้จากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ยังเป็นรายได้หลักประมาณ 70-80%
เขา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะขอใบอนุญาตในการทำธุรกิจด้าน Wealth Management ซึ่งได้มีการเตรียมทีมงานแล้ว คาดว่าจะดำเนินการได้ประมาณไตรมาส 3 ปีนี้ และจะขอใบอนุญาตกองทุนส่วนบุคคล เพื่อรองรับลูกค้าโดยจะเป็นลูกค้าที่มีพอร์ตประมาณ 2-3 ล้านบาท
นอกจากนี้ในปีนี้จะเน้นด้านอนุพันธ์มากขึ้น เพราะแนวโน้มนักลงทุนหันมาซื้อขายในตลาดอนุพันธ์มากขึ้น คาดหวังว่าจะมีรายได้ในธุรกิจนี้ประมาณ 1 ใน 3 ของรายได้รวมในอนาคต ส่วนธุรกิจด้านวาณิชธนกิจก็ยังมีลูกค้าที่จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นอีกหลายบริษัท ซึ่งจะเป็นบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ขณะที่บริษัท ฟินันซ่า ซึ่งเป็นบริษัทแม่จะทำดีลบริษัทขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จับมือ บริษัท ฟินันซ่า จัดงานใหญ่ “Finansia Investment Conference 2019” เป็นครั้งแรกกับการประชุมใหญ่ของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศและบริษัทจดทะเบียนชั้นนำกว่า 40 บริษัท เพื่อรุกการให้บริการกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ โดยได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) ร่วมเสวนา ในหัวข้อ “โอกาสเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางวิกฤต สู่ความท้าทายระดับสากล”