“กลุ่มทิสโก้” ตั้งเป้าสินเชื่อปี 2562 โต 4% ใช้สินเชื่อจำนำทะเบียน “สมหวัง เงินสั่งได้” เป็นเรือธงหวังยอดพุ่ง 20% เพิ่มช่องทางสื่อสารผ่านดิจิทัล
นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิสโก้ไฟ แนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) หรือ กลุ่มทิสโก้ กล่าวว่า ในปี 2562 กลุ่มทิสโก้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรวมไว้ที่ 4% จากยอดสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2561 ที่ 2.4 แสนล้านบาท โดยมีสินเชื่อจำนำทะเบียน ภายใต้แบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” เป็นตัวนำ ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น 40% ซึ่งทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างสิ้นปีเพิ่มขึ้น 20% จาก 3.2 หมื่นล้านบาท เป็น 4 หมื่นล้านบาท
“ผลประกอบการปีนี้มีโอกาสเติบโตจากปีที่ผ่านมาได้ (ผลประกอบการปี 2561 เติบโต 15%) รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียม คาดว่าปีนี้เติบโตประมาณ 5% โตต่อเนืองจากช่วงปีที่ผ่านมา จากการขายกองทุนรวมและประกันผ่านธนาคารที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี โดยเฉพาะแบงก์แอสชัวร์รันส์เฉลี่ยโตต่อปีที่ 6-8%
พร้อมกันนี้ ธนาคารมองว่าการตั้งสำรองหนี้เสียในปีนี้จะลดลงจากปีที่แล้ว โดยปี 2561 ตั้งสำรองทั้งสิ้น 2.7 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ปีนี้น่าจะอยู่ในระดับทรงตัวจากปีก่อนที่อยู่ที่ 2.86% เนื่องจาก เศษฐกิจยังมีความผันผวน”
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ กรรมการอำนวยการกลุ่มทิสโก้ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า “สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์คงจะเติบโตไม่มาก แต่สินเชื่อสมหวังเงินสั่งได้จะเติบโต จากการประเมินยอดขายรถยนต์ที่น่าจะไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน โดยมีแผนขยายสาขาสมหวังเงินสั่งได้ในหัวเมืองใหญ่ จังหวัดภาคตะวันออก (EEC) และกรุงเทพฯ ปริมณฑล เพิ่มเป็น 300 สาขา จาก 240 สาขาในปัจจุบัน”
อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า การขยายสินเชื่อในปีนี้ต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น รักษาการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ที่เป็นห่วงว่า ยอดซื้อส่วนหนึ่งจะเป็นดีมานด์เทียม และไม่สามารถผ่อนชำระได้ โดยเฉพาะผู้กู้ที่มีภาระหนี้ครัวเรือนในระดับสูง
ส่วนผลกระทบต่อกลุ่มทิสโก้นั้น แม้ต้นทุนทางการเงินจะปรับสูงขึ้นบ้างแต่จะถูกชดเชยด้วย Credit Cost ที่เริ่มปรับเข้าสู่ระดับปกติ ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์คุณภาพสินทรัพย์และระดับการตั้งสำรองที่แข็งแกร่ง
นายสุทัศน์ กล่าวอีกว่า กลุ่มทิสโก้จะยกระดับบริการให้คำแนะนำทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้าแบบองค์รวม หรือ Holistic Financial Advisory โดยครอบคลุมการวางแผนการเงินที่มีการคุ้มครองความเสี่ยงต่างๆ เพื่อช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับลูกค้าทางหนึ่ง และยังเป็นโอกาสทางธุรกิจในยุคสังคมผู้สูงอายุและเทรนด์การตื่นตัวด้านสุขภาพ ซึ่ง
ทิสโก้ตั้งเป้าหมายจะต่อยอดการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน (Investment Advisory) ให้ครอบคลุมการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพที่สามารถให้คำแนะนำลูกค้าในการวางแผนคุ้มครองสุขภาพที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละรายอย่างคุ้มค่า โดยได้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร ศึกษาตลาด และ คัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมทยอยออกมานำเสนอตลอดปีนี้ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์การลงทุนที่สอดคล้องกับภาวะตลาด เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า
นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เร็วขึ้นและมากขึ้น ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย เช่น การใช้ Chatbot มาช่วยตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ พัฒนาบริการในช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ และแอปพลิเคชันต่างๆ ที่จะทยอยออกมาช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า