ผู้ว่า ธปท.ห่วงบาทแข็งผิดปกติ สั่งแบงก์ตรวจเข้มผู้ค้าทอง-ชงหน่วยงานคุมออนไลน์

HoonSmart.com>>ผู้ว่าธปท.ห่วงเงินบาทแข็งค่ามาก ครึ่งเดือนธ.ค. 2.5% พบต้นเหตุหนึ่งกลุ่มผู้ค้าทองขายดอลลาร์ เพื่อซื้อเงินบาทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บางช่วงถึง 20% สั่งธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบเข้มงวดเอกสารธุรกรรม หารือคลัง ขอหน่วยงานที่เหมาะสมเข้ากำกับดูแลธุรกิจทองคำ โดยเฉพาะออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่ใหญ่ขึ้นมาก  ตรวจธุรกรรมขายเงินตราต่างประเทศเพื่อซื้อเงินบาท ป้องกันเงินเข้าประเทศที่ไม่พึงประสงค์ ด้านนายกฯสั่งคลัง-พาณิชย์-ธปท.หาทางแก้บาทแข็งกว่า 4 ปี

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย  (ธปท.) เปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. เงินบาทแข็งค่าขึ้น 2.5% สาเหตุหลักมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากปัจจัยเฉพาะของไทยเอง เช่น ปัจจัยฤดูกาลในช่วงท้ายปีที่ทำให้มีเงินไหลเข้าสูงขึ้น ทั้งจากการท่องเที่ยวและการส่งออก รวมทั้งเงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนในหุ้นและพันธบัตร นอกจากนี้ ยังมีธุรกรรมจากกลุ่มผู้ค้าทองคำที่มีปริมาณธุรกรรมขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อเงินบาทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ธปท. จึงเข้าดูแลค่าเงินบาทและคุมเข้มธุรกรรมการขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อเงินบาทของธุรกิจทองคำ โดยได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบเอกสารในธุรกรรมการขายเงินตราต่างประเทศเพื่อแลกซื้อเงินบาทของธุรกิจทองคำอย่างเข้มงวด และอยู่ระหว่างการขอให้ออกประกาศกระทรวงการคลังเพื่อให้อำนาจ ธปท. ในการเรียกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศจากผู้ค้าทองคำรายใหญ่ รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับธุรกรรมการขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อเงินบาท
“ธุรกรรมซื้อขายเงินตราต่างประเทศของธุรกิจทองคำในบางช่วงมีสัดส่วนสูงถึง 20% ของการซื้อขายเงินตราต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งมีผลต่อความผันผวนของค่าเงินบาท นอกจากนั้น ธปท. ได้หารือกับกระทรวงการคลังเพื่อขอให้มีหน่วยงานที่เหมาะสมเข้ากำกับดูแลธุรกิจทองคำ โดยเฉพาะการซื้อขายทองคำออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่มีขนาดธุรกรรมใหญ่ขึ้นมาก และส่งผลให้เกิดความผันผวนของค่าเงินบาทอย่างชัดเจน”นายวิทัยกล่าว

นอกจากนี้ ธปท. จะเข้าตรวจสอบการทำธุรกรรมขายเงินตราต่างประเทศเพื่อซื้อเงินบาท เพื่อป้องกันการนำเงินเข้าประเทศที่ไม่พึงประสงค์หรือไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจปกติและการโอนเงินของบุคคลธรรมดา โดยจะให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศอย่างเคร่งครัด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้ ได้มอบหมายให้ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือกับธปท. เพื่อหาแนวทางในการรับมือในเรื่องดังกล่าวต่อไป

ด้านนายเอกนิติ กล่าวว่า  ขณะนี้กระทรวงการคลังได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์ และ ธปท.เกี่ยวกับธุรกรรมซื้อขายทองคำทุกธุรกรรม เพื่อแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งเร็วเกินไป

สำหรับต่าเงินบาทของวันที่ 16  ธ.ค. 2568 เคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ 6 สตางค์  ปิดที่ระดับ 31.52 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจาก
ช่วงเช้า  รอผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 17 ธ.ค.ซึ่งตลาดมองว่ามีโอกาสที่ กนง.จะลดดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.25%และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ หากออกมาไม่ดี ก็มีโอกาสที่บาทจะแข็งค่าต่อได้อีก  ส่วนตลาดหุ้น ดัชนี SET พลิกกลับมาปิดที่ 1,260.68 จุด ลดลง 12.72 จุด หรือ-1.00% มูลค่าซื้อขาย 30,835.38 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 353.03 ล้านบาท จากเมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อมากกว่า 1,000 ล้านบาท หนุนดัชนีพุ่งขึ้นกว่า 19 จุด

อ่านข่าวอื่นๆ : https://hoonsmart.com/archives/394314