HoonSmart.com>>บล.ทิสโก้ ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับตัวลงหลุด 1,250 จุด แนวรับถัดไป 1,220-1,230 จุด หลังยุบสภาฯ คาดเลือกตั้งใหม่ปลายม.ค.-ก.พ. มองจังหวะทยอยสะสม ชี้เป้าหุ้น Outperform ช่วงเลือกตั้ง พร้อมตั้งรับหุ้นปันผลดียีลด์สูงกว่า 4% ขึ้นไป
วันนี้ (12 ธ.ค. 68) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกายุบสภา พ.ศ. 2568 เตรียมเดินหน้าเลือกตั้งใหม่ ไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน
หลังนายกรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลฯ ว่า รัฐบาลเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่มีปัญหารุมเร้าในหลาย ๆ ด้าน ส่งผลให้รัฐบาลไม่อาจบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และมีเสถียรภาพหากปล่อยให้สภาวการณ์เป็นอยู่เช่นนี้ย่อมจะเกิดความไม่มั่นคงทางการเมืองและกระทบต่อความเชื่อมั่นของนานาประเทศ อาจนำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธาของประชาชนต่อระบบรัฐสภาและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ในที่สุดทางออกที่เหมาะสมคือการยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง สส. ใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป อันเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนเจ้าของอำนาจสูงสุดโดยเร็ว

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ เผยเกมพลิก! นายกฯ “อนุทิน” ทูลเกล้าฯ ยื่นยุบสภาแล้ว หลังการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ในวันที่ 2 เมื่อวาน (11 ธ.ค.) รัฐสภาโหวตให้คงคะแนนเสียง ส.ว. ไม่ต่ำกว่า 1/3 ในการเห็นชอบเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาชนไม่เห็นด้วย แต่พรรคภูมิใจไทยสนับสนุน ทำให้ฝ่ายค้านอาจยื่นขอโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจทันทีที่มีการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญครั้งที่ 2 ในวันนี้ (12 ธ.ค.) ส่งผลให้นายกฯ อนุทิน ชิงประกาศยุบสภาก่อน เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
โอกาสการยุบสภาเร็ว ถือเป็นความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เราประเมินไว้และแนะนำให้นักลงทุนรอความชัดเจนก่อนตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. การยุบสภาทำให้การเมืองเข้าสู่สุญญากาศในระยะสั้นและสถานภาพของ ส.ส. สิ้นสุดลง นอกจากจะมีผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญล้มเหลวแล้ว คาดจะกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลด้วย ทั้งประเด็นความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา, การเจรจาการค้า, การฟื้นฟูศก.หลังน้ำท่วมภาคใต้ และการผลักดันโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 รวมทั้ง TISA ด้วย
มอง SET Index จะตอบสนองในเชิงลบ มีโอกาสปรับตัวลงหลุดระดับ 1250 มีแนวรับถัดไปที่ 1220-30 แต่เรามองเป็นจังหวะในการทยอยสะสม เรามอง Downside ตลาดจำกัด เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองซึมซับในตลาดบางส่วนแล้วก่อนหน้านี้ ขณะที่มูลค่าหุ้นไทยที่ไม่รวม DELTA ที่ถูกมาก โดย Earning Yield Gap เทียบเคียงกับช่วงวิกฤติ COVID-19 และคาดหวังการประชุม กนง.ในสัปดาห์หน้า (17 ธ.ค.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นอกจากนี้ กระแสเงินกองทุนลดหย่อนภาษีที่มักไหลเข้ามากสุดในข่วงครึ่งหลังของเดือน ธ.ค.
สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน ม.ค. – ต้นเดือน ก.พ. ในเชิงสถิติในช่วงที่มีการยุบสภาจนถึงมีการเลือกตั้งใหม่ SET Index มักจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย +1.1% (Max = +10.1%, Min. -10.1%) ขณะที่ Pre-election Rally ในช่วง 1-2 เดือนก่อนเลือกตั้งมีโอกาสปรับขึ้นราวราว 53-73% และให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ย +2.0% ถึง +2.3%
กลุ่มอุตสาหกรรมที่มัก Outperform ในช่วงที่มีการเลือกตั้ง คือ กลุ่ม FOOD, FIN, CONMAT, ENERG และ COMM หุ้นเด่นระยะสั้น – ICHI, MTC, TIDLOR, TASCO, GPSC, GULF, SPRC, CPALL, BJC, CPAXT, CRC, MRDIYT, PLANB
นอกจากนี้เป็นจังหวะในการตั้งรับหุ้นปันผลดี คาด Div. Yield ในช่วงที่เหลือของปีนี้สูงกว่าระดับ 4% ขึ้นไป แนะนำ AP, BTG, FM, GFPT, LH, MC, OSP, PRM, PTT, PTTEP, SABINA, SAPPE, SCCC และ SIRI

