ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์หมุนเวียนผู้สอบบัญชีกองทุนรวม-ทรัสต์ลงทุนอสังหาฯ

ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์การหมุนเวียนผู้สอบบัญชีของกองทุนรวมและทรัสต์ที่มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยให้กองทุนรวมและทรัสต์ที่มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือโครงสร้างพื้นฐานต้องเปลี่ยนผู้สอบบัญชีเมื่อครบ 7 ปี และต้องเว้นวรรคผู้สอบบัญชีรายเดิม 5 ปี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุนในการใช้รายงานทางการเงินในการตัดสินใจลงทุน เริ่มบังคับใช้ 1 ม.ค.62

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ความเป็นอิสระของผู้สอบบัญชีเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้รายงานทางการเงินมีความน่าเชื่อถือ เมื่อมาตรฐานสากลในเรื่องดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไป ก.ล.ต. จึงต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์การหมุนเวียนผู้สอบบัญชีให้สอดคล้องกัน ซึ่งล่าสุด ก.ล.ต. ปรับปรุงเกณฑ์การหมุนเวียนผู้สอบบัญชีของบริษัทจดทะเบียนแล้ว และครั้งนี้ปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าวสำหรับกองทุนรวมและทรัสต์ที่มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นแนวทางเดียวกันด้วย โดยจะกำหนดให้มีการหมุนเวียนผู้สอบบัญชีเมื่อปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว 7 รอบปีบัญชี โดยจะต้องมีการเว้นวรรค 5 รอบปีบัญชี จากเดิมที่จะต้องหมุนเวียนผู้สอบบัญชีเมื่อปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว 5 รอบปีบัญชี และต้องมีการเว้นวรรค 2 รอบปีบัญชี โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562”

รพี สุจริตกุล

ทั้งนี้ ก.ล.ต. มีแนวทางผ่อนผันการหมุนเวียนผู้สอบบัญชี เพื่อช่วยลดผลกระทบในช่วงแรกของการบังคับใช้เกณฑ์ใหม่ (ปี 2562 – 2566) โดยจะอนุญาตให้ระยะเวลาเว้นวรรคผู้สอบบัญชีรายเดิมมีระยะเวลาน้อยกว่า 5 รอบปีบัญชีได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 รอบปีบัญชี และในกรณีผู้สอบบัญชีสังกัดสำนักงานสอบบัญชีขนาดเล็ก ก.ล.ต. จะอนุญาตให้สามารถขอผ่อนผันการปฏิบัติหน้าที่ผู้สอบบัญชีเกินกว่า 7 รอบปีบัญชีได้ แต่ต้องไม่เกิน 9 รอบปีบัญชี ซึ่งหากผู้สอบบัญชีได้รับการผ่อนผัน ก็จะถือว่ากองทุนรวมและทรัสต์ที่มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือโครงสร้างพื้นฐานได้รับการผ่อนผันด้วย