HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดพุ่่ง 18.02 จุด รีบาวด์ตามตลาดต่างประเทศ แรงหนุนจากภาษีทรัมป์มีโอกาสโดนบล็อก ส่งหุ้นส่งออกทั่วภูมิภาคขึ้นเด่น ส่วนหุ้นไทย DELTA ตัวหลักดันดัชนีฯ และยังมีเม็ดเงินไหลเข้ากลุ่ม ICT อย่างมีนัยยะ ต่างชาติขายสุทธิ 825.26 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 7.23 ล้านบาท พรุ่งนี้ไปต่อในกรอบ 1,300-1,330 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 6 พ.ย.68 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,313.31 จุด เพิ่มขึ้น 18.02 จุด หรือ +1.39% มูลค่าซื้อขาย 38,193.64 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,316.59 จุด ต่ำสุด 1,298.64 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 825.26 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 58.08 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 7.23 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 774.41 ล้านบาท
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ปัจจัยหนุนจากภาษีทรัมป์มีโอกาสที่จะโดนบล็อก ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มส่งออกในภูมิภาคปรับตัวขึ้นเด่น ทำให้ DELTA ขึ้นเด่นในวันนี้ด้วย
นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่ม ICT จะเห็นได้ว่ามีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาอย่างมีนัยยะ ทั้ง ADVANC, TRUE ต่างก็มีโอกาสเติบโตในช่วงที่เหลือปีนี้ได้อย่างต่อเนื่อง หลังไตรมาส 3/2568 ทำผลงานออกมาดี
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) ตลาดฯมีโอกาสปรับขึ้นได้ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,300-1,330 จุด
บล.ธนชาต ระบุว่า DELTA นํา SET ปรับขึ้นเด่น ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ: ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.ที่ออกมาดีกว่าคาด และการไต่สวนของศาลสูงประเด็นการเก็บภาษีของทรัมป์ที่เป็นไปในโทนที่อาจจะจํากัดอํานาจการเก็บภาษีของทรัมป์ ทําให้ตลาดหุ้นตอบรับเชิง “บวก” หนุนตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น รวมถึง SET แต่การปรับขึ้นนั้นยังคงกระจุกตัวอยู่ที่ DELTA และกลุ่มหุ้น Defensive อย่างกลุ่มสื่อสารที่รายงานงบไตรมาส 3/2568 ดีกว่าคาด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
ADVANC ปิดที่ 314.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.32% มูลค่าซื้อขาย 2,492.89 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 183.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.27% มูลค่าซื้อขาย 2,426.07 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 11.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ +3.51% มูลค่าซื้อขาย 2,321.52 ล้านบาท
KTB ปิดที่ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +1.83% มูลค่าซื้อขาย 1,925.60 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 229.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท หรือ +0.34% มูลค่าซื้อขาย 1,898.08 ล้านบาท