โบรกฯ มองแนวโน้มหุ้นไทยลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย ลดคาดการเติบโต GDP “ฟินันเซีย ไซรัส” หวังราคาน้ำมันเพิ่มฟื้นช่วยพยุงกลุ่มพลังงาน “กสิกรไทย” แนะลดพอร์ตลงทุน หรือโยกหาหุ้นได้ประโยชน์น้ำมันลง ชู IVL AAV PTG
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาดว่า SET Index จะอ่อนตัวลงจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบ FED ปรับลดการเติบโตของ GDP ปี 2018-2019 ลงและเริ่มมีสัญญาณที่ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจจะชะลอ ในขณะที่ปรับลดแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยเป็น 2 ครั้งในปีหน้า (เป็น 2.75-3%) อย่างไรก็ตามเราคาดว่าราคาน้ำมันดิบที่เริ่มฟื้นตัวจะช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงานได้บ้าง ขณะที่หุ้น Domestic กลุ่มหลักๆ เช่น ธนาคาร ค้าปลีก สื่อสารฯ โรงพยาบาล คาดว่ายังเป็นกลุ่มที่ Outperform ตลาดในช่วงนี้และทำให้ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นได้
บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดตลาดหุ้น “ย่อแล้วดีด” แนวต้าน 1,615/1,620 จุด แนวรับ 1,589/1,584 จุด หลัง FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2018-19ลง โดยคาดดอกเบี้ยในปี 2019 จะขึ้นอีกเพียง 2 ครั้ง เดิมคาด 3 ครั้ง ดังนั้น ระยะสั้นเศรษฐกิจที่ชะลออาจเป็นลบ แต่กลาง-ยาวนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะหนุนสินทรัพย์เสี่ยงได้
ส่วนในประเทศ กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ปรับลดคาดการณ์ GDP 2018-19 ลงตามเศรษฐกิจโลกที่ชะลอ แต่มอง Domestic Demand แข็งแกร่ง สะท้อนพื้นฐานไทยแข็งแรง จึงแนะ Theme “Domestic Play”: AMATA, STEC, DTAC
บล.กสิกรไทย ยังคงคำแนะนำลดน้ำหนักการลงทุนที่ 1,600 จุด หลังดัชนีฟื้นกลับขึ้นมาที่ 1,600 จุดแล้ว มองเป็นโอกาสในการทยอยลดน้ำหนักการลงทุน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงใน ม.ค.62 ทั้งนี้นักลงทุนอาจสลับมาเน้นที่หุ้นได้ประโยชน์จากน้ำมันขาลง IVL AAV PTG (Let Profit Run)
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คงมุมมองลบต่อปัจจัยต่างประเทศ พร้อมแนะให้นักลงทุนชะลอ แรงเก็งกำไรในกลุ่ม Global play และ Commodity หุ้นสะสมกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจำกัด อย่างกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL) และ สื่อ Out of home media อย่าง VGI, MACO พร้อมถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40%