“บลจ.วรรณ” ลุ้นหุ้นไทยสิ้นปี 1,370 จุด คาด 5 กลุ่ม outperform รับนโยบายรัฐ

HoonSmart.com>>บลจ.วรรณ คาดแนวโน้มหุ้นไทยเดือนก.ย. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,210-1,300 จุด รอผลประชุมเฟด ครม.อนุทิน 1 พัฒนาการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ ประเมิน 5 กลุ่มหุ้นมีโอกาส outperform รับอานิสงส์จากนโยบายภาครัฐ แนะลงทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ผ่านกองทุน “1.A.M. SET50” ควบคู่กระจายความเสี่ยงไปยังกองทุนตราสารหนี้ “1.A.M. DAILY, ONE-FIXED , ONE-FAR” พร้อมเพิ่มโอกาสลงทุนต่างประเทศผ่าน 5 กองทุนเด่น

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนก.ย.2568 มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 1,210-1,300 จุด การลงทุนอาจต้องระมัดระวังบรรยากาศการลงทุน เพื่อรอทิศทางนโยบายทางการเงินจากสหรัฐฯ ปัจจุบันตลาดคาดหวังว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 17 ก.ย.

ด้านการเมืองไทยหลังมีความชัดเจนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 โดยมีเงื่อนไขให้นายกฯใหม่ยุบสภาภายใน 4 เดือนและเร่งผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ยังต้องติดตามพัฒนาการในการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐหลังจากนี้

บลจ.วรรณ ประเมินว่าในช่วง 4 เดือนก่อนการยุบสภา พรรคภูมิใจไทยมีแนวโน้มที่จะผลักดันนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ เช่น โครงการโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาท้องถิ่น มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ Wellness รวมถึงการกระตุ้นการใช้จ่าย แม้งบประมาณปี 2569 ได้ผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาแล้ว แต่ข้อจำกัดด้านเวลาและอำนาจยังคงเป็นปัจจัยกดดัน โดยข้อมูลในอดีตชี้ว่าช่วงการเลือกตั้งทั่วไปมักทำให้การเบิกจ่ายลงทุนภาครัฐลดลงราว 30-40% ซึ่งอาจกดดัน GDP ประมาณ 0.2% ในไตรมาส 4/2569 และไตรมาส 1/2570

ขณะที่ GDP ไตรมาส 2/2568 ขยายตัว 0.6% QoQ และ 2.8% YoY สูงกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ครึ่งปีแรกเติบโต 3% YoY อย่างไรก็ตามแนวโน้มในครึ่งปีหลังยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากทั้งปัจจัยการเมืองและภายนอกประเทศ

ด้านภาพรวมผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/2568 กำไรเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ดีกว่าตลาดคาดราว 10% หลักๆ มาจากกำไรพิเศษของหุ้นใหญ่ เช่น GULF, SCC, TOP และ THAI ส่งผลให้กำไรสุทธิครึ่งปีแรกนี้คิดเป็นสัดส่วน 59% ของประมาณการกำไรทั้งปีนี้ของตลาด ช่วยจำกัดความเสี่ยงตลาดในการปรับลดประมาณกำไรลง

ล่าสุด เริ่มเห็น SET EPS ทรงตัวในเดือนส.ค. โดย SET EPS ในปันี้มาอยู่ที่ 89.0 บาทต่อหุ้น และ 95.8 บาทต่อหุ้นในปีหน้า หากแนวโน้มนี้คงตัวหรือเริ่มฟื้นตัวในเดือนก.ย. จะช่วยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนเพิ่มขึ้น

บลจ.วรรณ คาดว่าพัฒนาการตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.ย. ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของการเมืองไทย อย่างไรก็ตาม บลจ.วรรณประมาณการระดับ SET Index สิ้นปี 2568 อาจขึ้นไปถึงกรอบ 1,370 จุด (Best case) โดยในครึ่งปีหลังมี โอกาสได้รับแรงหนุนจากเงินทุนต่างชาติ เนื่องจาก หุ้นไทยปีนี้ติดลบกว่า -11.56% ยังเป็น Laggard เมื่อเทียบ กับตลาดโลก ขณะที่มูลค่าหุ้นยังต่ํากว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว โดย Fwd. PER ของตลาด DM อยู่ที่ 19 เท่า ขณะที่ ตลาดไทยอยู่ที่ 13-14 เท่า ทําให้เกิด Valuation Gap สูงถึง 6 เท่า (มากกว่า +2SD ของค่าเฉลี่ยระยะยาว) อีก ทั้ง P/BV และ Div. Yield ดีกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาค

นอกจากนี้ การถือครองหุ้นไทยของต่างชาติยังต่ํากว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ที่ 19.8% ของทุนจดทะเบียน เทียบกับค่าเฉลี่ย 20.2% หากต่างชาติถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นหรือ ลดลง ทุกๆ 0.1% จะคิดเป็นเม็ดเงินราว 1.5 หมื่นล้านบาท

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำในช่วงนี้ เน้นลงทุนในหุ้นไทยขนาดใหญ่ผ่านกองทุน 1.A.M. SET50 ควบคู่กับการกระจายความเสี่ยงไปยังกองทุนตราสารหนี้ เช่น 1.A.M. DAILY, ONE-FIXED และ ONE-FAR เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาด นอกจากนี้ยังแนะนำให้พิจารณาลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศและสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ เพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะกลางถึงยาวอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับภาพรวมพอร์ตการลงทุนยังแนะนำพอร์ตการลงทุนเชิงกลยุทธ์แบบกระจายสินทรัพย์ เน้น “สินทรัพย์ทางเลือก” มากกว่า “ตราสารทุน” และ “ตราสารหนี้” เมื่อเทียบกับกรอบการลงทุนระยะปานกลางถึงยาว เพื่อรักษาสมดุลระหว่างผลตอบแทนกับความเสี่ยงในระดับปานกลาง โดยมุมมอง 3 เดือนข้างหน้ายังเพิ่มน้ำหนัก สินทรัพย์ทางเลือก ได้แก่ Insurance-linked และ Digital assets ส่วนหุ้นแนะนำ หุ้นยุโรป หุ้นจีน หุ้นตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ส่วนตราสารหนี้ เน้นตราสารหนี้ทั่วโลกคุณภาพดี