HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นจีน” กลับมาเป็นจุดสนใจของนักลงทุน หลังความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐฯ-จีนผ่อนคลายลง กระแส AI แข็งแกร่งหนุน “หุ้นเทค” พุ่งแรงส่งสัญญาณฟื้นตัว ด้าน Valuation มูลค่าหุ้นยังไม่แพง โอกาสสร้างผลตอบแทนสูงได้ในระยะยาวกับ “ธีมเทค-AI” หุ้นจีน ผ่านกองทุน “M-CTECH” ลงทุนครอบคลุม Value Chain ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของอุตสาหกรรม AI และเทคโนโลยีจีน ทั้งหุ้นจีน H-Share และ A-Share

“กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไชน่า เทคโนโลยี (M-CTECH)” เป็นกองทุนในกลุ่ม China Technology ที่ลงทุนในธุรกิจจีนที่เกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยมีการกระจายการลงทุนผ่านกองทุนหลัก 2 กองทุน ETF ชั้นนำ ครอบคลุมทั้งหุ้นจีน H-Share และ A-Share
จุดเด่นกองทุน M-CTECH
1. ผสมผสาน 2 กองทุน ETF ชั้นนำอย่างมีกลยุทธ์ :
• กองทุน iShares Hang Seng TECH ETF: เน้นลงทุนใน 30 บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาดฮ่องกง (H-Share) เป็นกองทุน ETF ที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับดัชนี Hang Seng TECH ซึ่งดัชนี ประกอบด้วยหุ้นจีน H-Share อาทิ Tencent, Meituan,Xiaomi ,BYD ,JD.COM , Kuaishou, Baidu, NetEase
• กองทุน ChinaAMC CSI Artificial Intelligence ETF: ลงทุนใน 50 บริษัทที่เป็นผู้นำด้าน AI ของจีน เป็นกองทุน ETF ที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive เช่นกัน โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับดัชนี CSI AI Theme Index ซึ่งดัชนี ประกอบด้วยหุ้นจีน A-Shares อาทิ Cambricon, Hikvision, Iflytek, Montage Tech, Beijing Kingsoft, Zhongji, Eoptolink เป็นต้น แม้จะมีการเน้นกลุ่ม AI แต่ก็มีความหลากหลายในแง่ของบริษัท
2. ครอบคลุมทุกส่วนของ Value Chain ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของอุตสาหกรรม AI และเทคโนโลยีจีน
3. โอกาสเติบโตจากธีมเทคและ AI ของจีน ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลจีน
พอร์ตการลงทุนของ “กองทุน M-CTECH” มีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 50% ใน 2 กองทุน ETF ที่มีการลงทุนหุ้นทั้งตลาด A-Share และ H-Share ซึ่งครอบคลุมหุ้นทุกส่วนของ Value Chain ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของอุตสาหกรรม AI และเทคโนโลยีจีน ที่จดทะเบียนอยู่ใน
“หุ้นจีน” ส่งสัญญาณฟื้นตัว กระแส AI หนุนหุ้นเทคพุ่งแรง
“ตลาดหุ้นจีน” ที่หายไปจากเรดาร์ของนักลงทุน เริ่มกลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนอีกครั้ง หลังจากตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเดือนทองของ “ตลาดหุ้นจีน”
ดัชนี CSI 300 (หุ้นจีนยักษ์ใหญ่ ตลาด A-Share) พุ่ง 10.3%
ดัชนี Hang Seng (หุ้นจีนจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง (H-Ashare)) เพิ่มขึ้น 1.2%
ดัชนี Hang Seng TECH (หุ้นจีนกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นฮ่องกง ตลาด H-Ashare)) ปรับตัวขึ้น 4.06%
ดัชนีปัญญาประดิษฐ์ซีเอสไอ (CSI Artificial Intelligence Index) พุ่งแรง 36.27% (หุ้นบริษัทชั้นนำด้าน AI ของจีนที่อยู่ในดัชนี ทั้งกลุ่มฮาร์ดแวร์ (เซมิคอนดักเตอร์) ซอฟต์แวร์ และคลาวด์คอมพิวติ้ง) (ข้อมูล ณ 31 ส.ค.68 ที่มา : บลจ.เอ็มเอฟซี)
ตลาดหุ้นจีนได้ปัจจัยหนุนจาก “สภาพคล่อง” ในระบบที่อยู่ในระดับสูงจากเงินทุนของ “นักลงทุนรายย่อยและกองทุนเฮดจ์ฟันด์” ในประเทศที่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลายลงอย่างมีนัยสําคัญ ด้วยการปรับลดภาษีและการเปิดทางส่งออกวัตถุดิบหายาก ทางด้าน Nvidia และ AMD ได้รับอนุญาตให้กลับมาส่งชิป AI ให้กับจีน เช่น Nvidia H20 และ AMD MI308 ภายใต้เงื่อนไขต้องแบ่งรายได้บางส่วนให้รัฐบาลสหรัฐฯ สะท้อนสหรัฐฯเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีต่อจีนบางส่วน ซึ่งถือเป็น “สัญญาณบวก” ต่อ “อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และ AI” ของจีน
ด้านนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะกลุ่ม AI และเซมิคอนดักเตอร์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงมาตรการภาครัฐที่มุ่งแก้ไขปัญหาการแข่งขันตัดราคาและเตรียมกํากับดูแลราคาบนแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนที่คาดหวัง “ผลประกอบการ” ที่จะดีขึ้นในอนาคต
ท่ามกลางเศรษฐกิจจีนที่ยังอยู่ในช่วงของการฟื้นฟู รอเวลาฟื้นตัว เริ่มมีสัญญาณที่ดีจากการบริโภคในประเทศทยอยฟื้นตัว ตัวเลขยอดค้าปลีกขยายตัวต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลหรือโครงการ “เอาของเก่ามาแลกของใหม่ (Trade-in Program)” นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและการตั้งเป้าการคลังเชิงรุก ช่วยพยุงเศรษฐกิจและสร้างเสถียรภาพตลาดในปีนี้
“มูลค่าหุ้นเทคจีน” ยังถูกกว่า “หุ้นเทคสหรัฐฯ”
ทว่า การปรับตัวขึ้นมาของ “ตลาดหุ้นจีน” โดยเฉพาะ “หุ้นเทคจีน” ที่สร้างความกังวลให้แก่นักลงทุนว่าราคาอาจ “วิ่งแรงเกินไป” แต่เมื่อเปรียบเทียบตัวเลข Forward P/E ของหุ้นเทคจีนเฉลี่ยราว 14 เท่า ยังต่ำกว่าหุ้นเทคสหรัฐฯ ที่ยืนอยู่ราว 30 เท่าอยู่มาก นักวิเคราะห์จาก UBS และ Citi ต่างยืนยันว่า หุ้นจีนยัง “ไม่แพง” เมื่อมองเชิงมูลค่า
“บลจ.เอ็มเอฟซี ยังมีมุมมอง “บวก” ต่อ “หุ้นจีน” โดยเฉพาะโอกาสเติบโตสูงในระยะยาวจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของจีน ประกอบกับ Valuation ที่ยังอยู่ในระดับน่าสนใจ แม้ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัวขึ้นมา แต่ยังมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนหุ้นเทคจีน เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว ผ่านกองทุน M-CTECH”
ปัจจัยสนับสนุนหุ้นเทคโนโลยีจีน
นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
• ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จัดประชุมกับผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Alibaba, BYD, Huawei, CATL, Xiaomi, Tencent, Meituan รวมถึง DeepSeek ในเดือนก.พ.68 เป็นสัญญาณฟื้นฟูความเชื่อมั่นของภาคเอกชน
• จีนมีการลงทุน เพื่อยกระดับและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูลและพลังงานให้กลายเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI)
(ที่มา : Glodman Sachs Global Investment Research)
“DeepSeek กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยี”
• DeepSeek ประสบความสำเร็จในการพัฒนา LLM (Larege Language Model) ที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยต้นทุนต่ำกว่า ChatGPT ของ OpenAI และ Claude
• เป็นสัญญาณว่า “จีน” กำลังก้าวสู่ยุคที่่พึ่งพาตนเองในเทคโนโลยีขั้นสูง กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูลและพลังงาน ที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากขึ้น
“Valuation เทคโนโลยีจีนยังคงน่าสนใจ”
• ระดับ Valuation ของหุ้นเทคโนโลยีจีน ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับหุ้นในดัชนี Nasdaq 100 ของสหรัฐฯ และแนวโน้มกำไรหุ้นเทคโนโลยีจีนอยู่ในช่วงฟื้นตัว
นักลงทุนในประเทศทยอยกลับลงทุนหุ้นจีนอีกครั้ง
• คนจีนมีเงินออมส่วนเกิน (Excess Saving) อยู่ค่อนข้างสูง ถึง 5 ล้านล้านหยวน (ปี 2022 – 2024) จากการที่คนจีนชะลอการบริโภค รวมถึงซื้ออสังหาริมทรัพย์
• เริ่มมีสัญญาณกลับจาก การเติบโตของผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ (เช่น กองทุนตราสารหนี้ ประกัน และผลิตภัณฑ์ธนาคาร) ชะลอตัวลง ในขณะที่ กองทุนหุ้นและกิจกรรมในตลาดทุน กลับเติบโตมากขึ้น
สำหรับกองทุน M-CTECH (ระดับความเสี่ยง 6) มีนโยบายลงทุนใน “กองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศและ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ (ETF) ” ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศจีน หรือบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจในประเทศจีน หรือบริษัทที่มีรายได้หลักจากการประกอบกิจการในประเทศจีน ที่มีการทำธุรกิจหรือได้รับประโยชน์จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี โดยกองทุนจะลงทุนเพื่อให้มี Net Exposure ในกองทุนรวมต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี หรือบลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทุนจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 79% ของ NAV
กองทุน M-CTECH เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนใน “บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในจีน” และมีโอกาสเติบโตจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและ AI ของจีน และต้องการการกระจายการลงทุนผ่าน ETF ชั้นนำ เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตในระยะยาว สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท
