HoonSmart.com>>”ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น” (SUPER) เดินหน้าผูกพันธมิตรกับพาร์ทเนอร์ในครึ่งปีหลัง หวังพัฒนาธุรกิจโรงไฟฟ้า-เสริมการเงินแกร่ง เตรียม COD 2 โครงการในเวียดนาม Soc Trang ต.ค.นี้ และ Bec Lieu ในธ.ค.ปีนี้ เทรนด์ดอกเบี้ยขาลง หวังลดภาระดอกเบี้ยปีนี้ราว 1,000 ล้านบาท พร้อมคาดปี 68 กำลังผลิตรวม 1,518 MW รวม COD สองโครงการลมในเวียดนาม เป้ารายได้ปี 68 อยู่ที่ 8,799 ล้านบาท
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลังบริษัทยังคงมีการทำงานร่วมกันกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยขยายการลงทุนร่วมและพัฒนาธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศอาเซียนในระยะยาว ด้านความแข็งแกร่งทางการเงิน จะมีการติดตามอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน โดยจะบริหารจัดการตามสถานการณ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และบริหารจัดการต้นทุนให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ในส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย มุ่งสร้างโรงไฟฟ้า ดัน COD ปี 2569-2572 และโครงการใหม่จากการประมูลใหม่ รวมถึงสนับสนุนธุรกิจอื่น ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่ Net Zero
“ทุกครั้งที่มีการขายโครงการ ก็จะมีการขยายโครงการใหม่ ๆ ซึ่งในครึ่งปีหลังเราอาจมีข่าวดีในการนำพาร์ทเนอร์เข้ามาช่วยหนุนเรื่อง Knowhow และสนับสนุนการเงินให้แข็งแกร่งได้ หลังจากที่บริษัทฯได้มีการขาย”เดซี่ โซล่าร์”ไปแล้วเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา กำลังการผลิตรวม 98 เมกะวัตต์ (MW) ทำให้ 30 ก.ย.จะมีเงินเข้ามากว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน และใช้ขยายธุรกิจในอนาคต“
สำหรับโครงการพลังงานลมในเวียดนาม 2 โครงการ คือ โครงการ Soc Trang กำลังผลิต 30 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ในเดือนต.ค. นี้ อัตราค่าไฟฟ้า 1,585 เวียดนามดอง/kWh และโครงการ Bec Lieu กำลังผลิต 141 MW (เฟส 1 : 99 MW) คาดว่าจะ COD ในเดือนธ.ค. ปีนี้ อัตราค่าไฟฟ้า 1,813.12 เวียดนามดอง/kWh ทั้งสองโครงการคาดว่าจะให้ Return 10-12%
สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย จำนวน 141.5 เมกะวัตต์ (MW) ใช้งบลงทุน 10,270 ล้านบาท ประกอบด้วย พลังงานแสงอาทิตย์พร้อมแบตเตอรี่ 4 โครงการ 78 MW งบลงทุน 8,070 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 13 โครงการ 63.5 MW งบลงทุน 2,200 ล้านบาท ทั้งสองจะลงนาม PPA/COD ในปี 2570-2572
ในส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในไทย และเวียดนาม จะมี 211 MW การลงทุน 12,980 ล้านบาท โดยเป็นโครงการ Soc Trang (เวียดนาม) 30 MW ลงทุน 2,200 ล้านบาท จะ COD ต.ค.นี้ , โครงการ Bec Lieu (เวียดนาม) 141 MW ลงทุน 8,500 ล้านบาท อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เฟส 1 : 99 MW จะ COD ธ.ค. 2568 และ เลมอนโกลด์ฟาร์ม SPP7.2 ในไทย 40 MW ลงทุน 2,280 ล้านบาท รอ PPA/COD ในปี 2570
โรงไฟฟ้าขยะในไทย 12 MW ลงทุน 2,850 ล้านบาท ที่เพชรบุรี 8 MW ลงทุน 1,400 ล้านบาท เตรียม COD 2569 ส่วนที่กบินทร์บุรี 4 MW ลงทุน 1,450 ล้านบาท คาดว่าจะ PPA/COD ได้ในปี 3027
ในส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการรอการแก้ไขต้นทุนการลงทุน เป็น 2 โครงการพลังงานลมในเวียดนาม Phu Yen 200 MW และ Dak song 50 MW และโรงไฟฟ้าขยะในไทยที่นครศรีธรรมราช 16 MW ทั้งสามอยู่ในระยะเตรียมการ / COD ปี 2570
“เป้าหมายรายได้ของเรายัง Maintain อยู่ประมาณ 9,000-10,000 ล้านบาท และมีขายทรัพย์สินอยู่บ้าน รวมถึงมี Strategic Partner เข้ามาเพื่อลดดอกเบี้ยลง เพราะต้นทุนทางการเงินดอกเบี้ยยังสูงอยู่ แม้เทรนด์ดอกเบี้ยจะลดลง ซึ่งครึ่งปีแรกลดดอกเบี้ยไปได้ 500 กว่าล้าน เพราะฉะนั้นปีนี้น่าจะลดดอกเบี้ยไปได้ 1,000 ล้านบาทจากปีที่แล้ว (2567) เป็นแผนที่วางไว้ และดีลขาย”เดซี่”พอเงินเข้ามาเมื่อไร ก็จะช่วยลดหนี้ลงไปได้อีก 4 พันล้าน ก็เดินไปตามแผน โดยรายได้หลัก 60% อยู่ที่เมืองไทย และ 40% อยู่ที่เวียดนาม แต่ปีหน้าเวียดนามน่าจะขยับขึ้นประมาณ 5-8% เพราะมีตัวลมรายได้เข้ามา และเมืองไทยมี”เดซี่”ออกไปด้วย”
นายจอมทรัพย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของ Data Center ได้มีการพูดคุยอยู่ 2-3 เจ้า จากที่ติดต่อเข้ามาหลายบริษัท ซึ่งการทำของบริษัทจะไม่เข้าไปทำ Data Center ในส่วนของการให้บริการเกี่ยวกับ IT แต่บริษัทจะเข้าไปขายไฟฟ้าสีเขียว และน้ำ ให้ในราคาถูก ซึ่งตรงนี้บริษัทฯมีความพร้อม และสามารถที่จะแข่งชันกับคนอื่นได้
น.ส.กุลชลี นันทสุขเกษม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานสนับสนุนธุรกิจ SUPER เปิดเผยว่า บริษัทประมาณการกำลังการผลิต (เมกะวัตต์) ในปี 2568 และอีก 3 ปีข้างหน้า โดยปี 2568 คาดว่าจะมีกำลังผลิตรวมทั้งสิ้น 1,518 MW จาก COD โครงการ Soc Trang และ Bec Lieu ในเวียดนาม ปีนี้ หลังจากที่มีการขาย Sunflower และ Daisy ออกไป และในปี 2569 จะมีกำลังผลิตรวม 1,526 MW จากที่จะ COD โครงการที่เพชรบุรี 8 MW ปี 2570 จะมีกำลังผลิตรวม 1,610 MW ปี 2571 จะมีกำลังผลิตรวม 1,899 MW
รายได้รวมในปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 8,799 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ที่มี 9,626 ล้านบาท และปี 2569 คาดว่าจะมีรายได้ 9,238 ล้านบาท ปี 2570 คาดว่าจะมีรายได้ 10,176 ล้านบาท
———————————————————————————————————————————————————–
