HoonSmart.com>>”ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ปรับตัวลงลดแรง ดัชนี Nikkei 225 ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 42,300 จุด แรงขายหุ้นเกือบทุกกลุ่ม นำโดยหุ้นเทค ด้าน “ตลาดเอเชีย” มีทั้งบวกและลบ “จีน-ฮ่องกง” บวก นักลงทุน จับตาข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับลดลงอย่างมาก และต่อเนื่องมาจากสัปดาห์ก่อนหน้า ตามการปิดลบของตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์ โดยดัชนี Nikkei 225 ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 42,300 จุด จากการปรับลงเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม นำโดยหุ้นเทคโนโลยี
ในตลาด Prime Market หุ้นที่นำการปรับลงนอกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีแล้ว คือ หุ้นกลุ่มโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มสารสนเทศ
S&P Global รายงานผลสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของญี่ปุ่นเดือนสิงหาคมว่าอยู่ที่ 49.7 ดีขึ้นจาก 48.9 ในเดือนกรกฎาคม แต่หดตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง
เงินเยนของญี่ปุ่นลดลง 0.1% อยู่ที่ 147.22 ต่อดอลลาร์
ณ เวลา 9.38 น. ตามเวลาประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 41,907.8 จุด ลดลง 810.67 จุด, -1.9%
ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกมีทั้งปรับขึ้นและลดลง จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากคำตัดสินของศาลส่งผลกระทบต่อนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และนักลงทุนเตรียมจับตาข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ซึ่งอาจกำหนดทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ศาลอุทธรณ์กลางสหรัฐอเมริกาสำหรับเขตศาลกลาง(U.S. Court of Appeals for the Federal Circuit – C.A.F.C.) มีคำตัดสินเมื่อวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ใช้อำนาจประธานาธิบดีเกินขอบเขตในการเก็บภาษีกับแทบทุกประเทศทั่วโลก ตามที่ประกาศในวันที่ 2 เมษายน
ภาษีนำเข้าทั่วโลกของทรัมป์ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเอเชีย และยังคงมีผลบังคับใช้อยู่
ความสนใจอยู่ที่ตลาดหุ้นจีนหลังจากหุ้น Alibaba Group Holding Ltd. พุ่งขึ้น 13% ในการซื้อขายที่นิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ หลังจากรายงานรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของ AI ในจีน อย่างไรก็ตาม กิจกรรมภาคโรงงานของจีนยังคงหดตัวในเดือนสิงหาคม ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ( PMI) ภาคการผลิตของประเทศอยู่ที่ 49.4 ในเดือนสิงหาคม เทียบกับ 49.3 ในเดือนก่อนหน้า
ในเช้าวันนี้ Ratingdog ซึ่งก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อ Caixin รายงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนสิงหาคมว่าอยู่ที่ 50.5 เทียบกับการหดตัว 49.5 ในเดือนก่อนหน้า
ด้านเงินดอลลาร์และพันธบัตรแทบไม่ขยับก่อนการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ซึ่งรวมถึงการสำรวจภาคการผลิตและบริการของหลายประเทศ และการจ้างงานเดือนสิงหาคมของสหรัฐในวันศุกร์ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ว่างงานจะเพิ่มขึ้น 75,000 ราย แต่อาจแตกต่างกันไปตั้งแต่ 0 ถึง 110,000 ราย เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากรายงานในเดือนกรกฎาคมที่อ่อนแอเกินคาด ขณะที่อัตราการว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 4.3%
ตัวเลขที่จะออกมาหากสอดคล้องหรือลดลงจะตอกย้ำคาดการณ์ของตลาดที่บ่งชี้ว่ามีโอกาสเป็นไปได้เกือบ 90% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17 กันยายน
สำหรับประเด็นอื่นที่จะมีผลต่อตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสัปดาห์นี้ได้แก่ความเสี่ยงทางการเมือง ประธานาธิบดีปราโบโว สุเบียนโต ของอินโดนีเซีย ยกเลิกการเดินทางไปยังประเทศจีน หลังจากเกิดเหตุการณ์ประท้วงอันเนื่องมาจากค่าครองชีพและความเหลื่อมล้ำ ที่มุ่งเป้าไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและสมาชิกรัฐสภาหลายคน ในประเทศไทย พรรคการเมืองต่างๆ กำลังแข่งขันกันจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไป หลังจากที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง
ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้หุ้น Samsung Electronics Co. และ SK Hynix Inc. ลดลง 1.87% และ 3.62% ตามลำดับ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ถอดบริษัททั้งสองออกจากรายชื่อนิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ขนส่งสินค้าบางรายการจากจีนโดยไม่ต้องมีใบอนุญาต
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ เนื่องในวันแรงงาน
ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,871.45 จุด เพิ่มขึ้น 13.52 จุด, +0.35%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 25,594.92 จุด เพิ่มขึ้น 517.3 จุด, +2.06%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 3,164.75 จุด ลดลง 21.26 จุด, -0.67%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 24,014.79 จุด ลดลง 218.31 จุด ,-0.9%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 0.22 ดอลลาร์หรือ 0.34% ซื้อขายที่ 63.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 0.24 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ซื้อขายที่ 67.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

