“บอร์ด ช ทวี” ไฟเขียวเพิ่มทุนเฉพาะเจาะจงให้ “มารัตน์ แซ่ลิ้ม” จำนวน 69.94 ล้านหุ้น หรือ 10% ราคาหุ้นละ 1.4297 บาท นำเงินใช้หมุนเวียนกิจการและรองรับการขยายธุรกิจและงานประมูลในอนาคต
บริษัท ช ทวี (CHO) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2561 อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ไดเแก่ นายมารัตน์ แซ่ลิ้ม จำนวนไม่เกิน 69,944,744 หุ้น ราคาหุ้นละ 1.4297 บาท ซึ่งเป็นราคาตลาดย้อนหลัง 7 วันทำการหลักหักส่วนลด 10% แล้ว มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาทต่อหุ้น โดยให้ใช้สิทธิภายใน 3 วันทำการ นับจากวันที่คณะกรรมการมีมติดังกล่าว กำหนดจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นในวันที่ 12 ธ.ค. 2561-14 ธ.ค. 2561
ทั้งนี้ การขายหุ้นดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2561 และมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2561 ในการจัดหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 118,294,177 หุ้น คิดเป็น 10% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด และหลังขายหุ้นเพิ่มทุนให้นายมารัตน์ แซ่ลิ้ม จะถือหุ้น 8.91% ต่อทุนชำระแล้วหลังเพิ่มทุน
สำหรับกรอบในการเพิ่มทุน บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนมาใช้สำหรับการหมุนเวียนภายในกิจการ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและรองรับการขยายธุรกิจหลักของบริษัทและหรือเพื่อเป็นเงินทุนในการดำเนินงานโครงการที่บริษัทฯ ชนะการประมูลแล้ว รวมถึงที่คาดว่าจะเข้าประมูลเพิ่มเติมในอนาคต
นอกจากนี้บริษัทฯ และหรือบริษัทย่อยจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปใช้โครงการ E-Ticket กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งตามสัญญาว่าจ้างต้องส่งมอบและติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมดสำหรับรถโดยสารประจำทางจำนวน 2,600 คัน ภายในเดือนมิ.ย.2561 คาดว่าใช้เงินเพิ่มทุน 500 ล้านบาท โครงการศูนย์ซ่อมรถสิบล้อ 24 ชั่วโมง ซึ่งบริษัทฯ วางแผนเปิดให้ครบ 8 ศูนย์ภายในปี 2564 ซึ่งปี 2560 เปิดทำการแล้ว 1 ศูนย์ คาดว่าใช้เงินทุนเบื้องต้นประมาณ 100 ล้านบาทและใช้ในโครงการขอนแก่น Smart City ระยะที่ 1 กับบริษัทขอนแก่นทรานซิทซิสเต็ม ซึ่งบริษํทอยู่ระหว่างการประมูลในส่วนของงานจ้างเหมาออกแบบและก่อสร้างงานโยธาและโครงสร้างพร้อมทั้งการผลิตและติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารรางเบา ประเภท TRAM และการพัฒนาเมือง
ด้านราคาหุ้น CHO ปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 1.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 1.28% มูลค่าการซื้อขาย 14.03 ล้านบาท