HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดาวโจนส์ร่วง 349 จุด นักลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจ ดัชนี PCE เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยและจับตาผลประกอบการ Nvidia ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวเพิ่มขึ้น ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 25 สิงหาคม 2568 ปิดที่ 45,282.47 จุด ลดลง 349.27 จุด หรือ -0.77% นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และจับตาการรายงานผลประกอบการของ Nvidia
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,439.32 จุด ลดลง 27.59 จุด, -0.43%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,449.29 จุด ลดลง 47.24 จุด, -0.22%
ข้อมูลการบริโภคส่วนบุคคลมีกำหนดเผยแพร่ ในวันศุกร์ ส่วนผลการดำเนินงานของNvidia จะออกมาในวันพุธหลังตลาดปิด
แม้ความคาดหวังที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%ในเดือนหน้า เพิ่มขึ้นจาก 73% เป็นประมาณ 85% ในวันจันทร์ หลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณในการประชุมที่เมืองแจ็กสันโฮลสัปดาห์ก่อนว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน
แต่นักลงทุนยังจับตาการรายงานการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดนิยมใช้ เพื่อประเมินความเป็นไปได้อีกครั้ง นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า PCE พื้นฐานจะขยายตัว 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่า 2.8% ในเดือนมิถุนายนเล็กน้อย
นักลงทุนยังรอการประกาศผลประกอบการของ Nvidia ซึ่งเป็นหุ้นที่มีมูลค่าสูงสุดในดัชนี S&P 500 หลังปิดตลาดในวันพุธ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผู้ผลิตชิปรายนี้จะมีกำไร 1.01 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากรายได้ 46.13 พันล้านดอลลาร์ ก่อนหน้านี้มีการปรับราคาเป้าหมายขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าความต้องการฮาร์ดแวร์ AI ยังคงสูง
ราคาหุ้น Nvidia อยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 32% นับตั้งแต่ต้นปี และเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากระดับต่ำสุดของตลาดในเดือนเมษายน รายงานในวันพุธนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับ Nvidia และตลาดโดยรวม เนื่องจากนักลงทุนจับตาการสลับกลุ่มออกจากกลุ่มเทคโนโลยีก่อนที่จะปรับตัวขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ ในขณะเดียวกัน Dell และ Marvell จะรายงานผลประกอบการในวันพฤหัสบดี
หุ้น Intel ลดลง 1% จากที่ปรับขึ้นในช่วงแรก หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ฮาเวิร์ด ลัตนิค เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้เข้าซื้อหุ้น 10% ในบริษัท ประธานาธิบดีทรัมป์และทีมงานได้ส่งสัญญาณเมื่อวันจันทร์ว่า ข้อตกลงการเข้าซื้อหุ้นของ Intel เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเข้าถือหุ้นในบริษัทอื่นจะเพิ่มขึ้นอีก
ควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า รัฐบาล อาจเข้าถือหุ้นเพิ่มเติมในบริษัทต่างๆ ที่คล้ายกับการลงทุนในหุ้นของอินเทล ขณะเดียวกัน ทรัมป์กล่าวในห้องทำงานรูปไข่ว่า เขาต้องการเห็นกรณีอื่นๆ อีกมากมาย เช่น เดียวกับ Intel
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนกรกฎาคมที่ลดลง 0.6% มาที่ 652,000 แต่สูงกว่า 630,000 ยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากการขายทำกำรหลังจากปรับขึ้นในวันศุกร์ที่ได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินของสหรัฐฯ
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 558.82 จุด ลดลง 2.48 จุด, -0.44%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,843.04 จุด ลดลง 126.65 จุด, -1.59%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,273.12 จุด ลดลง 89.97 จุด, -0.37%
ตลาดอังกฤษปิดทำการเนื่องในวันหยุดธนาคาร
หุ้นกลุ่มก่อสร้างและวัสดุเป็นหุ้นที่ฉุดดัชนีมากที่สุด โดย Nibe Industrier ลดลง 7.9%
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน หุ้น Orsted บริษัทเดนมาร์กร่วงลง 16.4% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่สหรัฐฯ ระงับโครงการ Revolution Wind ของบริษัทนอกชายฝั่งรัฐโรดไอแลนด์ ท่ามกลางกระแสต่อต้านการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
บริษัทคู่แข่งอย่าง Vestas Wind, EDP Renovaveis และ Siemens Energy ก็ลดลงเช่นกัน
หุ้น JDE Peet’s แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสามปี และปิดบวก 17.5% หลังจากที่ Keurig Dr Pepper ตกลงซื้อกิจการบริษัทด้วยเงินสดมูลค่า 15.7 พันล้านยูโร (18.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
รอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าว 5 รายว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในเดือนหน้า แต่หากเศรษฐกิจอ่อนแอลง การหารือเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอาจกลับมาเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วง
ECB ได้คงอัตราดอกเบี้ยหลักไว้ที่ 2% ส่งผลให้วัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่ยาวนานหนึ่งปีสิ้นสุดลง และทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการพักการปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานาน
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.79% ปิดที่ 64.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.58% ปิดที่ 68.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

