ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 463 จุด คาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดาวโจนส์พุ่ง 463 จุด , ดัชนี S&P 500 ควง Nasdaq ทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่สองติดต่อกัน นักลงทุนคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป หลังเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อล่าสุด ด้าน “ราคาน้ำมัน” ปรับตัวลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 13 สิงหาคม 2568 ปิดที่ 44,922.27 จุด เพิ่มขึ้น 463.66 จุด หรือ +1.04% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ ดัชนี Nasdaq ยังคงทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่สองติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป หลังจากการเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อล่าสุด

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,466.58 จุด เพิ่มขึ้น 20.82 จุด, +0.32%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,713.14 จุด เพิ่มขึ้น 31.24 จุด, +0.14%

ตลาดปรับขึ้นต่อเนื่องจากที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในวันอังคาร หลังจากการเปิดเผยรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนกรกฎาคม โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ต่างก็ทำสถิติสูงสุดใหม่

แม้ข้อมูลจะแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน เครื่องมือ FedWatch ของ CMEนักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเกือบ 100% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน และเป็นการลดขนาดใหญ่ 0.50%

นอกจากนี้สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เรียกร้องให้ เฟดลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.50-1.75% ในวันพุธ “ผมคิดว่าเราสามารถทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นชุดๆ ได้ โดยเริ่มจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%ในเดือนกันยายน” เบสเซนต์ กล่าวกับบลูมเบิร์ก

รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักกลยุทธ์การลงทุนของ Baird ชี้ว่าผลประกอบการไตรมาสสองที่แข็งแกร่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนตลาด แม้ว่าการรายงานผลประกอบการจะผ่อนลงบ้างในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ในสัปดาห์หน้า ผลประกอบการจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยมีหุ้นค้าปลีกรายใหญ่หลายตัวกำหนดรายงานผลการดำเนินงาน

นักลงทุนหันออกจากหุ้น Magnificent Seven ขนาดใหญ่ และไปลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก โดยดัชนี Russell 2000 เพิ่มขึ้น 2% หุ้นขนาดเล็กได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง เนื่องจากช่วยลดต้นทุนเงินทุนและอาจกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค

อย่างไรก็ตามหุ้น AMD พุ่ง 5.4% นำการปรับขึ้นในกลุ่มเทคโนโลยี หุ้น Apple เพิ่มขึ้น 1.6% หุ้น Paramount Skydance พุ่ง 36.7%

นักลงทุนยังรอการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอีกสองรายการปลายสัปดาห์นี้ โดยดัชนีราคาผู้ผลิตกำหนดเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี และข้อมูลยอดขายปลีกในวันศุกร์ ซีงข้อมูลทั้งสองชุดนี้
ออกมาก่อนการประชุมของเฟดที่แจ็คสันโฮลในวันที่ 21-23 สิงหาคม ซึ่งอาจมีผลต่อความคาดหวังเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวนโยบายครั้งต่อไปของเฟดได้เช่นกัน

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสองสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับตัวดีขึ้น

หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์เพิ่มขึ้น 1.6% เป็นการปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม หุ้นGenmab เพิ่มขึ้น 3.8% หุ้น Bayer เพิ่มขึ้น 3.2% ส่วนกลุ่มเทคโนโลยี ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบสามเดือนในการซื้อขายก่อนหน้า

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 550.85 จุด เพิ่มขึ้น 2.96 จุด, +0.54%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,165.23 จุด เพิ่มขึ้น 17.42 จุด, +0.19%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,804.97 จุด เพิ่มขึ้น 51.55 จุด, +0.66%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,185.59 จุด เพิ่มขึ้น 160.81 จุด, +0.67%

การคาดการณ์เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงในวันอังคาร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวว่ามีโอกาสที่ดีที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% เครื่องมือ FedWatch ของ CME แสดงให้เห็นว่าขณะนี้ตลาดได้ประเมินว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%

ดัชนี DAX ของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 0.7% จากที่ลดลงติดต่อกันสามวัน หลังการรายงานอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีลดลงเหลือ 1.8% ในเดือนกรกฎาคม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่ายูเครนต้องมีส่วนร่วมในการเจรจาเรื่องอาณาเขตกับรัสเซีย หลังจากการประชุมออนไลน์กับผู้นำยุโรปเมื่อวันพุธ

ทรัมป์และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียมีกำหนดหารือกันถึงวิธีการยุติความขัดแย้งในยูเครน แต่ยูเครนและพันธมิตรกังวลว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของยุโรปและยูเครน

กลุ่มการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศ ปิดทรงตัว

ในด้านผลประกอบการของบริษัทในยุโรปยังแข็งแกร่ง โดยข้อมูล LSEG I/B/E/S ในวันอังคารแสดงให้เห็นว่า 54% ของบริษัทที่รายงานผลประกอบการจนถึงขณะนี้มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

หุ้น Renk ผู้ผลิตกระปุกเกียร์รถถังของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 2% หลังจากรายงานรายได้ไตรมาสที่สองดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศในยุโรปที่เพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 52 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 62.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.74% ปิดที่ 65.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–