ROCTEC กำไร 121 ลบ.โต 63% ธุรกิจ ICT หนุน

HoonSmart.com>> ROCTEC ไตรมาส 1 ปี 2568/69 รายได้รวมเติบโต 9.1% และกำไรสุทธิพุ่ง 63.0% หนุนโดยธุรกิจ ICT ความสามารถในการบริหารต้นทุน และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากต่างประเทศ

เว่ย แซม แลม

บริษัท ร็อคเทค โกลบอล  (ROCTEC) รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 สิ้นสุด 30 มิ.ย.2568  กำไรสุทธิ 121.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.91 ล้านบาท หรือ 63% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 74.43 ล้านบาท

รายได้รวม 825 ล้านบาท เติบโต 9.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตของกลุ่มธุรกิจการให้บริการด้าน ICT ซึ่งยังคงเป็นธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนรายได้ให้กับบริษัท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 85% ของรายได้รวม  ปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงาน และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมในต่างประเทศซึ่งมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

นาย  เว่ย แซม แลม  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ROCTEC กล่าวว่า ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสนี้ ตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์การมุ่งสู่ธุรกิจการให้บริการไอซีทีแบบครบวงจร  ต่อยอดฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มงานระบบเทคโนโลยีแบบครบวงจร (Integrated Technology Solutions) ที่ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่าย และระบบความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งมีการขยายตัวอย่างชัดเจนในกลุ่มหน่วยงานภาครัฐและสถาบันต่าง ๆ ในฮ่องกง เราจะเดินหน้าต่อยอดจุดแข็งด้านเทคโนโลยีและการบริหารโครงการ เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกตลาดที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ”

ไตรมาสนี้บริษัทยังมีพัฒนาการสำคัญ ได้แก่ การเริ่มต้นรับรู้รายได้จากโครงการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึงความคืบหน้าในการปรับเงื่อนไขของธุรกรรม Hello LED กับ PlanB ซึ่งยังคงมูลค่าธุรกรรมเดิม พร้อมทั้งได้กำหนดเงินมัดจำที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ แม้ทั้งสองรายการยังไม่ส่งผลต่อผลประกอบการในเชิงตัวเลขอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสนี้ แต่สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทฯ ในการต่อยอดเครือข่ายพันธมิตร และการสร้างโอกาสทางธุรกิจและทางการเงินในระยะยาวได้อย่างแข็งแกร่ง

บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มธุรกิจปีงบประมาณ 2568/69 โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มบริการด้าน ICT จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แรงสนับสนุนจากความต้องการโซลูชันเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ROCTEC จึงเดินหน้ายกระดับขีดความสามารถในการให้บริการ ผ่านการลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา (in-house R&D) ควบคู่กับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์โครงสร้างพื้นฐานเมืองอัจฉริยะ แม้เศรษฐกิจโลกยังเผชิญความไม่แน่นอนจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์

บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของตลาดหลัก ได้แก่ ประเทศไทยและฮ่องกง ซึ่งได้รับผลกระทบในระดับจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีรายได้ที่อยู่ระหว่างการส่งมอบและรอการรับรู้แล้วกว่า 67% ของเป้าหมายประจำปีงบประมาณ 2568/69 ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงของกระแสรายได้ในช่วงเวลาที่เหลือของปี บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน และส่งมอบคุณค่าระยะยาวแก่ผู้ถือหุ้นในทุกสภาวะเศรษฐกิจ