ดาวโจนส์ปิดลบ 61 จุด วิตกเศรษฐกิจ-ภาษี

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดาวโจนส์ลดลง 61 จุด กังวลภาวะเศรษฐกิจหลังข้อมูลอ่อนแอกว่าคาด “ทรัมป์” ยังเพิ่มแรงกดดันด้านการค้าต่อเนื่อง กรณีเตรียมเก็บภาษีนำเข้าชิปและผลิตภัณฑ์ยาในอัตราสูง ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 5 สิงหาคม 2568 ปิดที่ 44,111.74 จุด ลดลง 61.90 จุด หรือ -0.14% จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจหลังข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ และความเห็นรอบใหม่เกี่ยวกับภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,299.19 จุด ลดลง 30.75 จุด, -0.49%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,916.55 จุด ลดลง 137.03 จุด, -0.65%

ข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อเช้าวันอังคารแสดงให้เห็นว่าภาคบริการปรับตัวลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนกรกฎาคม ดัชนี PMI ภาคบริการของสถาบันจัดการอุปทาน (ISM) อยู่ที่ 50.1 ในเดือนกรกฎาคม ลดลงจาก 50.8 ในเดือนมิถุนายน และต่ำกว่า 51.5 ที่บลูมเบิร์กสำรวจนักเศรษฐศาสตร์

ส่งผลให้ยิ่งมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบชะงักงัน (Stagflation) มากขึ้นหลังจากตัวเลขการจ้างงานล่าสุดออกมา ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบชะงักงันบ่งชี้ถึงสถานการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการจ้างงานที่ลดลง ภาคบริการคิดเป็นประมาณ 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดังนั้น การชะลอตัวของภาคบริการอาจหมายถึงปัญหาในอนาคต

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังคงเพิ่มแรงกดดันด้านการค้าอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ หลังจากขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าจากอินเดีย โดยในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อเช้าวันอังคาร ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ภาษีนำเข้าชิปและผลิตภัณฑ์ยาจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งการนำเข้ายาอาจมีภาษีสูงถึง 250%

ทรัมป์ยังบอกว่าจะมีการแต่งตั้งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯคนใหม่ต่อจากเจอโรม พาวเวลล์ อาจได้รับการแต่งตั้ง ในเร็วๆ นี้ แต่ตัดความเป็นไปได้ที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่

นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการ โดยในวันอังคาร AMD และ Rivian เตรียมรายงานผลประกอบการหลังปิดตลาด ส่วนผลประกอบการของ McDonald’s และ Disney จะประกาศในวันพุธ

Palantir บริษัทเทคโนโลยีป้องกันประเทศปรับขึ้นโดดเด่นของวัน โดยราคาหุ้นพุ่งขึ้น 7.9% หลังประกาศว่ารายได้ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ในทางกลับกัน Caterpillar ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รายงานผลประกอบการต่ำกว่าคาด หุ้นปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนหุ้น Eaton ก็ลดลง 7% จากผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคก็ซื้อขายในแดนบวก

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 541.40 จุด เพิ่มขึ้น 0.80 จุด, +0.15%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,142.73 จุด เพิ่มขึ้น 14.43 จุด, +0.16%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,621.04 จุด ลดลง 10.97 จุด, -0.14%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,846.07 จุด เพิ่มขึ้น 88.38 จุด, +0.37%

การรายงานผลประกอบการที่คึกคักเต็มที่ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบของความไม่แน่นอนทางการค้าต่อผลประกอบการของบริษัท

หุ้น Diageo ผู้ผลิตสุรารายใหญ่ที่สุดของโลกเพิ่มขึ้น 4.9% หลังจากที่คาดการณ์ยอดขายในปี 2569 ทรงตัว แม้จะมีภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ และปรับเพิ่มเป้าหมายการลดต้นทุน

การปรับขึ้นของ Diageo ช่วยหนุนดัชนีอาหารและเครื่องดื่มขึ้น 1.2%

หุ้นบริษัทผลิตชิป Infineon ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากที่ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรทั้งปีขึ้นเล็กน้อย และชี้ว่ามการฟื้นตัวของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกเริ่มขึ้นแล้ว แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรอยู่บ้าง

หุ้น BP เพิ่มขึ้น 2.8% หลังกล่าวว่าจะพิจารณาแนวทางที่ดีที่สุดในการพัฒนาและสร้าง

รายได้จากสินทรัพย์การผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และพิจารณาลดต้นทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น หลังจากมีกำไรไตรมาสที่สองสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ฤดูกาลผลประกอบการครั้งนี้เป็นฤดูกาลแรกที่เผยให้เห็นผลกระทบต่อสถานะของบริษัทจากสงครามการค้าที่มาจากภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา หลังจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของกำไรในไตรมาสที่สอง

หุ้นธนาคารที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยลดลง 0.3% สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนของยูโรโซนที่ลดลง

Smith+Nephew ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์สัญชาติอังกฤษพุ่งขึ้น 15.3% หลังจากรายงานกำไรที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก และประกาศซื้อหุ้นคืนมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปี

หุ้น Novo Nordisk ร่วงลง 2.3% หลังจากที่ UBS ปรับลดคำแนะนำการลงทุนจาก “ซื้อ” ลงเป็น “ถือ” โดยอ้างถึงความท้าทายหลายประการต่อการเติบโตของบริษัท

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจ การสำรวจแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจในเขตยูโรเติบโตเร็วขึ้นเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน แม้ว่าความต้องการจะยังคงอยู่ในระดับต่ำก็ตาม

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 65.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 67.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–