ANI กำไรร่วง 20% เหลือ136 ลบ.Q2/68 เจอแข่งขันสูง ขาดทุนค่าเงิน12 ล้านบ.

HoonSmart.com>>”เอเชีย เน็ตเวิร์คฯ”(ANI) กำไรสุทธิ 136 ล้านบาท ลดลง 20.22% รวม 6 เดือนปีนี้ กำไรสุทธิ 274 ล้านบาท ลดลง 17.82% กำไรจากการดำเนินงานลดลงเพียง 13% สาเหตุหลักการแข่งขันในตลาดรุนแรง ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 12 ล้านบาท  เร่งลดหนี้สั้น-ยาว เตรียมความพร้อมเพิ่มการลงทุนขยายเครือข่ายมุ่งเติบโตยั่งยืนระยะยาว 

บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ANI) เปิดเผยผลงานงวดไตรมาสที่ 2/2568 มีกำไรสุทธิ 136 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.0736 บาท ลดลง 34.46 ล้านบาท คิดเป็น  -20.22% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 170.46 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.0922 บาท รวม 6 เดือนปีนี้ มีกำไร 274.05   ล้านบาท  กำไรหุ้นละ 0.1483 บาท ลดลง 59.41 ล้านบาท คิดเป็น -17.82% จากที่มีกำไรสุทธิ 333.46 ล้านบาทหรือ 0.1804 บาทต่อหุ้นในช่วงเดียวกันปีก่อน

สาเหตุหลักที่ทำให้กำไรสุทธิลดลงมาจากความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานที่ลดลง เนื่องจากการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้รายได้ต่อหน่วยขนส่ง (Freight Yield) อยู่ภายใต้แรงกดดัน นอกจากนี้ในงวดปี 2568 ยังมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 12.2 ล้านบาท  พลิกจากการที่เคยรับรู้กำไรในช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานหลักลดลงเพียง  13.3% จากครึ่งแรกของปี 2567  ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอุตสาหกรรมที่มีความผันผวนและอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านมากขึ้น ด้านข้อจำกัดด้านปริมาณระวางขนส่งของสินค้าในขณะนั้นยังช่วยสนับสนุนอัตี่กำไรที่อยู่ในระดับสูง

“ครึ่งปีนี้รายได้รวมลดลง 4.6% เหลือจำนวน 3,508.9 ล้านบาท สาเหตุหลักจากความถี่และปริมาณระวางขนส่งสินค้าของเที่ยวบินที่ลดลง ประกอบกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้นจากความตึงเครียดด้านภาษีระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ความต้องการใช้บริการอ่อนตัวลง  แต่บริษัทสามารถรักษาปริมาณงานได้อย่างมั่นคง และยังคงบริหารจัดการราคาด้วยความรอบคอบท่ามกลางความผันผวนของตลาดโลกและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น”

อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถรักษาระดับผลประกอบการได้อย่างแข็งแกร่ง โดยอาศัยการควบคุมต้นทุนอย่างมีวินัยและผลการดำเนินงานรายไตรมาสที่มีเสถียรภาพ สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทฯ ในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและกลับสู่ภาวะปกติหลังการแพร่ระบาดของโควิด แม้จะมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นจากประเด็นภาษีของสหรัฐอเมริกาก็ตาม

บริษัทได้เสริมสร้างสถานะทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ภาระหนี้สินรวมลดลง  18.9% จากสิ้นปี 2567  โดยหลักมาจากการชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น  40 ล้านบาท และการลดลงของหนี้สินระยะยาวจาก 975 ล้านบาท เหลือ 865 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ ้นไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุนที่ลดลง และมีส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 8,137.6 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีความพร้อมในการลงทุนเพื่อขยายเครือข่ายและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

บริษัทดำเนินธุรกิจในฐานะตัวแทนขายและให้บริการด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Cargo General Sales and Services Agent หรือ GSA) ให้กับสายการบินที่มีชื่อเสียงมากกว่า 20 สาย ใน 9 ประเทศและเขตปกครองพิเศษในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศไทย สิงคโปร์ เวียดนาม เขตปกครองพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนสาธารณรัฐประชาชนจีน มาเลเซีย กัมพูชา เมียนมา และอินเดีย  พร้อมให้บริการอื่นเพิ่มเติม  ได้แก่ บริการด้านทรัพยากรบุคคล รวมถึงการจัดหาอุปกรณ์และยานพาหนะที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการให้บริการภาคพื้นในท่าอากาศยานชางงี ประเทศสิงคโปร์  นอกจากนี้บริษัทได้ลงทุนในกิจการร่วมค้า ANA-SG  ดำเนินธุรกิจขนส่งด่วนในประเทศสิงคโปร์