กองทุนมีประกันฮอต! แห่ซื้อ “เคการันตี” 5 ปี กว่า 4.9 พันล.

บลจ.กสิกรไทย เตรียมคลอดกองทุนรวมแบบมีประกันกองที่ 2 ประเดิมเดือนม.ค.62 หลังกองแรก KGT5YA เสียงตอบรับดีเกินคาด ยอดขายสูงถึง 4,955 ล้านบาท สร้างสถิติกองทุนรวมแบบมีประกันกองเดียวในประเทศไทยที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังเปิดขายกองทุนเปิดเค การันตี 5 ปี A (KGT5YA) โดยชูจุดเด่นเรื่องการรับประกันเงินลงทุน 100% เมื่อถือครบอายุโครงการ 5 ปี ซึ่งเสนอขาย IPO เมื่อวันที่ 26 – 30 พ.ย.2561 นั้นปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั่วประเทศ เข้าลงทุนกันอย่างล้นหลาม ทำให้กองทุน KGT5YA มียอดขายสูงถึง 4,955 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย.2561) ซึ่งนับเป็นกองทุนรวมแบบมีประกัน (Guaranteed Fund) กองเดียวในประเทศไทยที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และคาดว่าจะเปิดเสนอขายกองทุนในรูปแบบดังกล่าวอีกเป็นกองที่ 2 ในเดือนมกราคมปีหน้า

“การเสนอขายกองทุน KGT5YA ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจต่อศักยภาพของบริษัทที่มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างธนาคารเครดิต อะกริโคล (Credit Agricole) มาทำหน้าที่เป็นผู้ประกันเงินลงทุนของกองทุน และ Amundi Asset Management ประเทศฝรั่งเศส มาทำหน้าที่บริหารและจัดการลงทุน โดยกองทุนมีกลยุทธ์เน้นสร้างผลตอบแทน ผ่านการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก (Global multi-asset) และมีการปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป” นายนาวิน กล่าว

นายนาวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน KGT5YA มีสภาพคล่องสูง ผู้ลงทุนสามารถขายคืนได้ก่อนครบอายุโครงการ โดยจะได้ราคา NAV ณ วันที่ทำการขายหน่วยลงทุน ในกรณีที่ NAV ปรับตัวมากกว่า 10 บาทต่อหน่วย ก็มีโอกาสทำกำไร แต่ถ้า NAV ปรับตัวต่ำกว่า 10 บาทต่อหน่วย ก็จะไม่ได้รับประกันเงินลงทุน ทั้งนี้ หากมีหน่วยลงทุนคงเหลืออยู่และถือไปจนครบอายุโครงการก็จะยังได้รับสิทธิประกันเงินลงทุนตามเงื่อนไขการรับประกันของกองทุน

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหุ้นต่างประเทศอาจมีความผันผวนตามสภาวะตลาดและค่าเงิน กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้