HoonSmart.com>>สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา รับลูกกระทรวงพาณิชย์ผนึกพันธมิตรทั่วอาเซียน จัด “Regional Trade Exponential Fest 2025” รวมกว่า 20 องค์กรระดับโลก พร้อมกรณีศึกษาความสำเร็จธุรกิจไทย–อาเซียนที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ ESG ดิจิทัล ความคิดสร้างสรรค์ แข่งขันบนภูมิทัศน์การค้าใหม่

นายสุภกิจ เจริญกุล ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) กล่าวว่า โลกการค้ากำลังเขียนกติกาใหม่ ทุกวันนี้แค่มีสินค้าและความตั้งใจไม่พอ ต้องมีวิสัยทัศน์ มีกลยุทธ์ มีเครือข่าย และพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจชาติ ต้องรู้ให้ทันโลก เข้าใจให้ลึก และกล้าคิดนอกกรอบ ITD จึงตั้งใจจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีแห่งแรงบันดาลใจและความรู้จากตัวจริงของโลกธุรกิจ
ทั้งนี้ จากรายงานของธนาคารโลก การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2568 อาจลดต่ำลงเหลือเพียง 2.3% ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่า ประเทศต่างๆ รวมถึงไทย ต้องเร่งปรับตัวต่อมาตรการกีดกันทางการค้า และความผันผวนของระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ขณะที่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs กำลังแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และแรงกดดันจากคำสั่งซื้อต่างประเทศที่ไม่แน่นอน แต่ท่ามกลางวิกฤต ยังมีโอกาสมหาศาล ตลาดภูมิภาคกำลังเติบโต เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังสร้างเส้นทางใหม่ การท่องเที่ยวยั่งยืนกำลังกลายเป็นเทรนด์หลัก และพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ประกอบการไทยที่กล้าเรียนรู้และลงมือก่อน จะเป็นผู้คว้าโอกาสเหล่านี้ไว้ได้ก่อนใคร
มหกรรม Regional Trade Exponential Fest 2025 คือเวทีความรู้และโอกาสขนาดใหญ่ระดับภูมิภาค โดยปีนี้รวบรวมวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ ผู้นำทางธุรกิจ และแพลตฟอร์มระดับโลกกว่า 20 องค์กรจากหลากหลายประเทศมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอีคอมเมิร์ซ เทคโนโลยี คอนเทนต์ สตาร์ทอัพ และแบรนด์ไทยที่โกอินเตอร์สำเร็จ
Alibaba ที่มาเปิดเผยเคล็ดลับเบื้องหลัง “วัฒนธรรมองค์กรแห่งการเติบโต” ซึ่งเป็นหัวใจของการขยายกิจการในระดับโลก
Bolt แพลตฟอร์ม Ride Sharing จากยุโรป ที่กล้าออกจากเงาแบรนด์ใหญ่มาเติบโตในกว่า 45 ประเทศทั่วโลก
Klook แพลตฟอร์มท่องเที่ยวจากฮ่องกง ที่พิสูจน์แล้วว่าการผสานเทคโนโลยีเข้ากับประสบการณ์ผู้ใช้ ทำให้ธุรกิจสามารถครองใจตลาดได้ในเวลาอันสั้น
IQIYI แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งจีน ที่มาเปิดมุมมองการเจาะตลาดต่างประเทศด้วยพลังของวัฒนธรรม,
ครีเอทีฟแบรนด์ไทยไปทั่วโลก
ด้าน ครีเอทีฟแบรนด์ไทยหลายรายก็มาแสดงพลัง
GDH559 สตูดิโอภาพยนตร์ไทยที่สามารถนำคอนเทนต์สู่ตลาดเอเชียและต่างประเทศอย่างประสบความสำเร็จ
Yell เอเจนซี่โฆษณาไทยที่ใช้วัฒนธรรมไทยสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงหัวใจคนทั่วโลก อีกกลุ่มที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือธุรกิจที่เติบโตจากภูมิปัญญาและรากวัฒนธรรมไทย
NaRaYa แบรนด์กระเป๋าผ้าที่มีจุดเริ่มต้นจากชุมชน จนกลายเป็นของฝากอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยว
Pipatchara แบรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนขยะให้กลายเป็นผลงานศิลป์
Coco Thumb แบรนด์น้ำมะพร้าวที่สามารถส่งออกมะพร้าวน้ำหอมคุณภาพพรีเมียมกว่า 30 ล้านลูกไปยัง 30 ประเทศทั่วโลก
สตาร์ทอัพสาย ESG
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจสตาร์ทอัพอาเซียน ที่สอดรับกับเมกะเทรนด์ด้าน ESG มาร่วมแชร์ประสบการณ์
Jago Coffee จากอินโดนีเซียที่พัฒนา “คาเฟ่เคลื่อนที่” บนรถเข็นไฟฟ้า พร้อมระบบสั่งผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที
Royo Panda จากฟิลิปปินส์ที่ส่งออกกระดาษทิชชู่ผ่านอีคอมเมิร์ซ และ
Green Discovery Laos จาก สปป.ลาว ที่เป็นต้นแบบของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบยั่งยืน สอด
นายสุภกิจ กล่าวว่า ในวันที่โลกเปลี่ยนเร็ว ธุรกิจต้องเปลี่ยนให้ทัน แต่ไม่ใช่แค่เปลี่ยนตาม ต้องเปลี่ยนอย่างมีกลยุทธ์ มีข้อมูล และมีเป้าหมาย
“เราจัดงานนี้เพื่อให้แรงบันดาลใจกลายเป็นแผนปฏิบัติจริงให้ผู้ประกอบการทุกระดับได้เดินหน้าอย่างมั่นใจ และก้าวทันโลกเศรษฐกิจใหม่”นายสุภกิจ กล่าว
