HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 142 จุด หลังรายงานข่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปขั้นต่ำระหว่าง 15-20% ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดทรงตัว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ปิดที่ 44,342.19 จุด ลดลง 142.30 จุด หรือ -0.32% หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผลักดันให้เพิ่มภาษีศุลกากรที่เก็บจากสหภาพยุโรป
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,296.79 จุด ลดลง 0.57 จุด, -0.01%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,895.66 จุด เพิ่มขึ้น 10.01 จุด, +0.05%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.07% ดัชนี S&P500 บวก 0.6% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.5%
ตลาดส่วนใหญ่ไม่สนใจความตึงเครียดเรื่องภาษีศุลกากร ท่ามกลางข้อมูลใหม่ที่ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง
ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากบุคคล 3 คนที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการเจรจาว่า ทรัมป์เตรียมจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปขั้นต่ำระหว่าง 15% ถึง 20% ในทุกข้อตกลงที่ทำกับสหภาพยุโรป สหภาพยุโรปกำลังพยายามบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนเส้นตายของทรัมป์ในวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งทรัมป์ประกาศว่าจะเริ่มจัดเก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรป 30%
นักลงทุนต่างให้ความสนใจกับรายงานผลประกอบการล่าสุดและข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ของสหรัฐฯ
ข้อมูลผลสำรวจผู้บริโภคประจำเดือนกรกฎาคมของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์สะท้อนถึงว่าความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรต่ออัตราเงินเฟ้อนั้นลดลง โดยการคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะ 1 ปีข้างหน้าลดลงมาที่ 4.4% จาก 5% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมที่เพิ่มขึ้น 1.8% จากเดือนมิถุนายน มาที่ 61.8 ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการและอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
ในส่วนของผลประกอบการ Netflix ลดลง 5% หลังจากที่บริษัทประกาศว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะลดลงจากช่วงครึ่งแรก ส่วนหุ้นของ 3M ลดลงกว่า 3% หลังจากที่บริษัทได้ปรับประมาณการการเติบโตของยอดขายปกติ (Organic Sales Growth) ว่าเพิ่มขึ้นเพียง 2% ก่อนหน้านี้ได้คาดการณ์การเติบโตไว้ที่กรอบล่าง 2% ถึง 3% หุ้น American Express ที่ลดลง 2% หลังรายงานผลประกอบการ ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง
แม้จะมีกระแสตอบรับที่หลากหลายต่อรายงานผลประกอบการของบริษัทล่าสุด แต่ฤดูกาลนี้ก็เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง โดยบริษัทในดัชนี S&P 500 รายงานผลประกอบการแล้วถึง 12% และในบรรดาบริษัทเหล่านี้ 83% ผลประกอบการดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
ในสัปดาห์หน้า หุ้นกลุ่ม Magnificent Seven จะเริ่มต้นรายวานผลประกอบการ โดย Alphabet และ Tesla จะเป็นบริษัทขนาดใหญ่กลุ่มแรกที่รายงานผลประกอบการประจำฤดูกาลนี้
จอห์น บัตเตอร์ส จาก FactSet คาดการณ์ว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีผลประกอบการเติบโตมากกว่า 14% ในไตรมาสที่สอง ขณะที่บริษัทอื่นๆ อีก 493 แห่งในดัชนี S&P 500 คาดว่าจะเติบโตเพียง 3.4%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวในวันศุกร์ โดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ขนาดใหญ่ได้รับการชดเชยด้วยหุ้นน้ำมันและก๊าซที่ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางการายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ที่คึกคักทั่วทวีป
ขณะที่การรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ เริ่มเพิ่มขึ้น นักลงทุนจับตาแนวทางของบริษัทต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อดูการปรับตัวรับกับนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อนถึงกำหนดเส้นตายการค้าในวันที่ 1 สิงหาคม
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์เป็นหุ้นที่ลดลงมากที่สุด โดยบริษัทผลิตยาของอังกฤษ GSK ร่วงลง 4.6%
หลังจากคณะที่ปรึกษาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ แนะนำไม่ให้รับรอง
ยา Blenrep ซึ่งเป็นยาต้านมะเร็งเม็ดเลือด เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียง
แต่หุ้นน้ำมันและก๊าซที่เพิ่มขึ้น 0.6% และหุ้นอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้น 0.8% ช่วยชดเชยการลดลงบางส่วน
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 547.00 จุด ลดลง 0.03 จุด, -0.01%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,992.12 จุด เพิ่มขึ้น 19.48 จุด, +0.22%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,822.67 จุด เพิ่มขึ้น 0.67 จุด, +0.01%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,289.51 จุด ลดลง 81.42 จุด, -0.33%
หุ้น Epiroc ผู้ผลิตอุปกรณ์เหมืองแร่ของสวีเดน ร่วงลง 9.2% หลังจากผลประกอบการไตรมาสที่สองต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์
แต่หุ้น Saab พุ่งขึ้น 16.4% หลังจากรายงานกำไรไตรมาสที่สองที่สูงกว่าที่คาดไว้ และปรับเพิ่มประมาณการยอดขาย
หุ้น Electrolux ผู้ผลิตเครื่องใช้ในบ้านของสวีเดน ร่วงลง 14.3% หลังจากมีผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ที่ย่ำแย่ในยุโรปและบริษัท Reliance Industries จากอินเดียเปิดเผยว่าธุรกิจค้าปลีกของบริษัทได้เข้าซื้อ Kelvinator กิจการผู้ผลิตเครื่องใช้ในบ้าน จาก Electrolux
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 67.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 69.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

