ดาวโจนส์ปิดบวก 217 จุด หวังเฟดลดดอกเบี้ย

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 217 จุด หลังรายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หนุนความหวังแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะไม่ทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ต้องสะดุดลง ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ทรงตัว ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก ที่ระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ปิดที่ 44,458.30 จุด เพิ่มขึ้น 217.54 จุด หรือ +0.49% จากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ทำให้เกิดความหวังว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะไม่ทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ต้องสะดุดลง

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,263.26 จุด เพิ่มขึ้น 37.74 จุด, +0.61%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,611.34 จุด เพิ่มขึ้น 192.87 จุด, +0.94%

รายงานการประชุมกลางเดือนมิถุนายนของเฟดที่เผยแพร่เมื่อวาน ระบุว่าเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะมีความเหมาะสมในช่วงปลายปีนี้ โดยคาดว่าการปรับขึ้นของราคาจากภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นภาวะชั่วคราวหรือเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามการสนับสนุนให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนกรกฎาคมมีน้อย

หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 1.8% และมูลค่าตลาดแตะ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในระหว่างวัน กลายเป็นบริษัทแรกที่มีมูลค่าตลาดสูงในระดับนี้ และปิดตลาดด้วยมูลค่าตลาด 3.97 ล้านล้านดอลลาร์ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ทั้ง Microsoft เพิ่มขึ้น 1.4% และ Alphabet เพิ่มขึ้น 1.43% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)ที่กลับมาอีกครั้ง

การปรับขึ้นของ Nvidia ช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ให้ปิดที่ all-time high

ตลาดปรับขึ้นจากนักลทุนที่ดูเหมือนจะลดความสำคัญของข่าวที่เกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากรล่าสุดในสัปดาห์นี้

รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักกลยุทธ์การลงทุนของ Baird กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า ตลาดกำลังมองข้ามภัยคุกคามด้านภาษีศุลกากรเหล่านี้ และมองว่ายังมีช่องทางสำหรับการทำข้อตกลงและการเจรจา ซึ่งการขยายเส้นตายออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม และความเห็นที่ว่ากำหนดเวลาดังกล่าวอาจถูกเลื่อนออกไปอีก เป็นการยอมรับว่ามีความต้องการที่จะทำข้อตกลง และตลาดจะปรับขึ้นต่อไปอย่างชัดเจนจนกว่าจะเป็นอย่างอื่น

ในวันพุธ ทรัมป์ได้ส่งจดหมายกำหนดอัตราภาษีศุลกากรใหม่ต่อสินค้าจาก 7 ประเทศ โดยเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแอลจีเรีย อิรัก ลิเบีย และศรีลังกา 30% บรูไนและมอลโดวา 25% และฟิลิปปินส์ 20% หลังจากที่ทรัมป์ได้ส่งจดหมายกำหนดอัตราภาษีใหม่ผู้นำของ 14 ประเทศ รวมถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเมื่อต้นสัปดาห์นี้ถึง

หุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้น 3.7% เนื่องจาก Susquehanna ปรับเพิ่มเป้าหมายราคา หลังจากบริษัทรายงานเมื่อวันอังคารว่าการส่งมอบเครื่องบินในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบเป็นรายปี
หุ้น UnitedHealth Group บริษัทประกันสุขภาพลดลง 1.6% หลังจากที่ Wall Street Journal รายงานว่ากระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ กำลังสืบสวนกรณีที่บริษัทได้ส่งแพทย์และพยาบาลไปรวบรวมการวินิจฉัยโรคที่ทำให้เงินชดเชย Medicare เพิ่มขึ้น

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ที่ระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารปรับขึ้นมากที่สุด ขณะที่นักลงทุนรอคอยสัญญาณความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 549.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.25 จุด, +0.78% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,867.02 จุด เพิ่มขึ้น 12.84 จุด, +0.15%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,878.46 จุด เพิ่มขึ้น 111.75 จุด, +1.44%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,549.56 จุด เพิ่มขึ้น 342.65 จุด, +1.42%
หุ้น UniCredit เป็นธนาคารที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในดัชนี โดยเพิ่มขึ้น 4.6% สู่ระดับสูงสุด

นับตั้งแต่ปี 255 ธนาคารจากอิตาลีรายนี้เผชิญกับการต่อต้านจากเยอรมนีอีกครั้งต่อความพยายามเข้าซื้อกิจการ Commerzbank หลังจากที่ธนาคารเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในคู่แข่งเป็นสองเท่า

ดัชนีธนาคารในยูโรโซนโดยรวมเพิ่มขึ้น 2.7% สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2010 ขณะที่ Societe Generale ธนาคารฝรั่งเศสก็เพิ่มขึ้น 4% เช่นกัน

ดัชนีกลุ่มการป้องกันประเทศในยุโรปเพิ่มขึ้น 1.4% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

หุ้น Renk ซึ่งเป็นบริษัทด้านการป้องกันประเทศของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 5% หลังจากรายงานของ Bloomberg ระบุว่าบริษัทกำลังพิจารณาขายหน่วยอุตสาหกรรมพลเรือนหรือบางส่วน
ในด้านการค้า สหภาพยุโรปกล่าวว่าสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเบื้องต้นกับสหรัฐฯ ได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จากกำหนดเส้นตายสำหรับการทำข้อตกลงถูกขยายออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม จากเดิมวันที่ 9 กรกฎาคม นักลงทุนจึงยังคงมีความหวังว่าจะมีการเจรจาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

หุ้นของบริษัทยาในยุโรปบางแห่งร่วงลง หุ้น Zealand Pharma ร่วงลง 2.7% และ Novo Nordisk ลดลง 1.5% หลังทรัมป์กล่าวว่าการจัดเก็บภาษีกับเซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์ยาที่เคยขู่ไว้นานแล้วจะถูกนำมาใช้ในเร็วๆ นี้

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 68.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 70.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–