HoonSmart.com>>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐฯ ใกล้จะสรุปข้อตกลงการค้าหลายฉบับในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ และจะแจ้งให้ประเทศอื่นๆ ทราบถึงอัตราภาษีที่สูงขึ้นภายในวันที่ 9 ก.ค. โดยอัตราภาษีที่สูงขึ้นมีกำหนดจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.2568
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฮาวเวิร์ด ลัทนิค บอกกับผู้สื่อข่าวว่าภาษีที่สูงขึ้นจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ แต่ทรัมป์ “กำลังกำหนดอัตราและข้อตกลง”
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทรัมป์ประกาศอัตราภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับประเทศส่วนใหญ่ และภาษีเพิ่มเติมสูงสุดถึง 50% แม้ว่าในภายหลังได้เลื่อนวันที่มีผลบังคับใช้สำหรับทุกประเทศ ยกเว้นภาษีพื้นฐาน 10% ออกไปจนถึงวันที่ 9 ก.ค.ซึ่งวันที่มีผลบังคับใช้ใหม่นี้ช่วยให้ประเทศต่างๆ มีเวลาผ่อนผัน 3 สัปดาห์
เมื่อวันอาทิตย์ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวกับรายการ “State of the Union” ของ CNN ว่า จะมีการแถลงข้อตกลงการค้าสำคัญๆ หลายฉบับในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ โดยระบุว่าสหภาพยุโรปมีความคืบหน้าอย่างดีในการเจรจา
เบสเซนต์กล่าวว่า ทรัมป์จะส่งจดหมายไปยังประเทศเล็กๆ อีก 100 ประเทศที่สหรัฐฯ ไม่มีการค้าขายด้วยมากนัก เพื่อแจ้งให้ทราบว่าจะต้องเผชิญกับอัตราภาษีที่สูงขึ้น ตามที่กำหนดไว้ครั้งแรกในวันที่ 2 เมษายน และระงับไว้จนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม
เบสเซนต์กล่าวกับ CNN ว่า รัฐบาลทรัมป์ให้ความสำคัญกับพันธมิตรการค้าที่สำคัญ 18 รายซึ่งคิดเป็น 95% ของการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ แต่เบสเซนต์กล่าวว่ามี “ความล่าช้าอย่างมาก” ในแต่ละประเทศในการสรุปข้อตกลงการค้า
เควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติซึ่งเป็นคณะที่ปรึกษาทำเนียบขาวกล่าวกับรายการ “Face the Nation” ของสถานีโทรทัศน์ CBSว่า อาจมีช่องทางให้ประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมการเจรจาอย่างจริงจังได้ และ ทรัมป์จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้หรือไม่
แฮสเซตต์กล่าวกับCBS News ว่า ข้อตกลงกรอบการทำงานที่บรรลุกับอังกฤษและเวียดนามแล้วนั้นเป็นแนวทางให้กับประเทศ อื่นๆ ที่ต้องการทำข้อตกลงทางการค้า และกล่าวว่าแรงกดดันของทรัมป์ทำให้ประเทศต่างๆ ย้ายฐานการผลิตมาที่สหรัฐอเมริกา
สตีเฟน มิแรน ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวกับรายการ “This Week” ของ ABC News ว่า ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องยินยอมเพื่อให้ได้อัตราภาษีที่ต่ำลง
สำหรับประเทศไทยนายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันอาทิตย์ว่า ประเทศไทยมีความมุ่งที่จะหลีกเลี่ยงการถูกก็บภาษีนำเข้า 36% และขณะนี้ก็เสนอการเข้าถึงตลาดสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ได้มากขึ้น รวมไปถึงซื้อสินค้าพลังงานและเครื่องบินโบอิ้งของสหรัฐฯ มากขึ้น
สถานีข่าวท้องถิ่นของอินเดีย CNBC-TV18 รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า อินเดียและสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าย่อยภายใน 24 ถึง 48 ชั่วโมงข้างหน้า โดยรายงานระบุว่าสินค้าอินเดียที่ส่งมายังสหรัฐฯ มีอัตราภาษีนำเข้าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10%
ประธานาธิบดีทรัมป์ยัง ประกาศว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10%กับประเทศที่ “สนับสนุนนโยบายต่อต้านอเมริกาของกลุ่ม BRICS” โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม จากการรายงานของ CNBC
“ประเทศใดก็ตามที่สนับสนุนนโยบายต่อต้านอเมริกาของกลุ่ม BRICS จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอีก 10% โดยไม่มีข้อยกเว้นต่อนโยบายนี้” ทรัมป์โพสต์บนเว็บไซต์ Truth Social เมื่อวันอาทิตย์ตอนเย็นตามเวลาในประเทศสหรัฐอเมริกา
การประกาศของทรัมป์มีขึ้นในขณะที่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา BRICS รวมตัวกันที่เมืองริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิลเพื่อร่วมประชุมสุดยอด
กลุ่ม BRICS ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เอธิโอเปีย อินโดนีเซีย และอิหร่าน
———————————————————————————————————————————————————–

