HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 35 จุด สวนทางดัชนี S&P 500 , Nasdaq ลบ นักลงทุนจับตาพัฒนาการสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังประธานาธิบดีทรัมป์ สหรัฐฯ ชะลอการปฎิบัติการทางทหารในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” อ่อนตัวลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวกหลังร่วง 3 วันติด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ปิดที่ 42,206.82 จุด เพิ่มขึ้น 35.16 จุด หรือ +0.08% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับลง นักลงทุนจับตาพัฒนาการสถานการณ์ในตะวันออกกลางหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ชะลอการปฎิบัติการทางทหารในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,967.84 จุด ลดลง 13.03 จุด, -0.22%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,447.41 จุด ลดลง 98.86 จุด, -0.51%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.02% ดัชนี S&P500 ลดลง 0.2% ขณะที่ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.2%
นักลงทุนยังคงจับจ้องไปที่ตะวันออกกลางซึ่งความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านยังคงสูง หลังจากที่อิสราเอลเริ่มโจมตีอิหร่านและนำไปสู่การตอบโต้จากอิหร่านมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ สหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านเพิ่มเติมหลังจากทรัมป์กล่าวว่าเขาอาจต้องใช้เวลาสองสัปดาห์ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมโดยตรงของสหรัฐฯ ในการโจมตีเตหะราน
นักลงทุนยังจับตาดูแนวทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในอนาคต
การซื้อขายผันผวน โดยในช่วงแรกดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นหลังจากที่คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้เร็วที่สุดในเดือนกรกฎาคม ระหว่างการสัมภาษณ์ในรายการ “Squawk Box”
การให้ความเห็นของวอลเลอร์มีขึ้นหลังจากที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวเมื่อวันพุธว่า เฟดไม่รีบร้อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะยังคงพิจารณาจากข้อมูล โดยเฉพาะเมื่อยังไม่ชัดเจนว่าภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร
ทรัมป์โจมตีพาวเวลล์อีกครั้งในวันพฤหัสบดี โดยกล่าวว่าประธานเฟดกำลังทำให้สหรัฐสูญเสียเงินหลายแสนล้านดอลลาร์จากการชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงหลังจากวอลเลอร์ให้ความเห็น และจากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางทำให้มีความต้องการพันธบัตรปลอดภัย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 2 จุดมาที่ 4.375% จาก 4.395% เมื่อช่วงปลายวันพุธ
ในขณะเดียว โทมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ให้ความเห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะปรับลดดอกเบี้ย
หุ้นชิปตกอยู่ภายใต้แรงกดดันหลังจากมีรายงานจาก The Wall Street Journal ว่าสหรัฐฯ อาจยกเลิกการยกเว้นสำหรับผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์บางราย หุ้น Nvidiaลดลงกว่า 1% หุ้น Taiwan Semiconductor Manufacturing ลดลงเกือบ 2%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกหลังจากร่วงลงติดต่อกัน 3 วัน เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลลงหลังจากที่สหรัฐฯ ชะลอการเข้าไปเกี่ยวข้องในความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ขณะที่ความขัดแย้งทางอากาศระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง เจ้าหน้าที่ยุโรปพยายามดึงอิหร่านกลับเข้าสู่การเจรจาทางการทูต โดยอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านเดินทางถึงเจนีวาเพื่อเจรจา
ทำเนียบขาวส่งสัญญาณว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะตัดสินใจภายใน 2 สัปดาห์ว่าจะให้การสนับสนุนอิสราเอลในความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งกระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาดให้กลับมาสนใจสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง จากที่ได้รับผลกระทบไปก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระยะเวลาของความขัดแย้ง
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นยุโรปปรับลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั่วโลกจากความไม่สงบในตะวันออกกลาง
ขณะเดียวกันกำหนดเส้นตายการระงับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯวันที่ 8 กรกฎาคมใกล้เข้ามา แต่การดำเนินการเกี่ยวกับข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ แทบไม่มีความคืบหน้า ยกเว้นแต่ข้อตกลงอย่างเป็นทางการที่บรรลุกับลอนดอน อูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปยังคงมีความหวังจะบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 9 กรกฎาคม
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการเพิ่มขึ้นเกือบ 1% นำโดย TUI ซึ่งเป็นบริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของยุโรปที่เพิ่มขึ้น 6.5% หลังจากที่ Barclays ได้ปรับคำแนะนำหุ้นจาก “underweight” เป็น “overweight”
หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 0.6% เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง แม้กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับสองในสัปดาห์นี้ จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นก่อนหน้านี้
กลุ่มประกันภัยเป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นมากที่สุดในวันศุกร์ โดยเพิ่มขึ้น 1.3%
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 536.53 จุด เพิ่มขึ้น 0.67 จุด, +0.13%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,774.65 จุด ลดลง 17.15 จุด, -0.20%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,589.66 จุด เพิ่มขึ้น 36.21 จุด, +0.48%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,350.55 จุด เพิ่มขึ้น 293.17 จุด, +1.27%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 74.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.40% ปิดที่ 77.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–
