HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐ 3 แห่งปรับตัวลง ดาวโจนส์ติดลบ 1.10 จุด นักลงทุนกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลาง กลบข่าวดี เงินเฟ้อที่ชะลอตัวหนุนเฟดปรับลดดอกเบี้ย ข่าวการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯลงตัว ด้านตลาดหุ้นยุโรปลดลง ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 4%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 11 มิถุนายน 2568 ปิดที่ 42,865.77 จุด ลดลง 1.10 จุด หรือ -0.003% นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่รายงานเงินเฟ้อที่ชะลอตัว ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านราคาที่เกิดจากภาษีศุลกากรคลี่คลายลง และนักลงทุนรอรายละเอียดเพิ่มเติมของการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,022.24 จุด ลดลง 16.57 จุด, -0.27%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,615.88 จุด ลดลง 99.11 จุด, -0.50%
ตลาดอ่อนตัวลงจากที่ปรับเล็กน้อยหลังจากแหล่งข่าวเผยว่าสหรัฐฯกำลังเตรียมอพยพสถานทูตในอิรักบางส่วนเนื่องจากความเสี่ยงด้านความมั่นคงในภูมิภาคที่เพิ่มมากขึ้น
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านกล่าวก่อนหน้านี้ว่าอิหร่านจะโจมตีฐานทัพของสหรัฐฯในภูมิภาคหากการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ล้มเหลวและเกิดข้อขัดแย้งกับสหรัฐ
รายงานข่าวอิหร่านได้กลบปัจจัยบวกจากรายงานข้อมูลแสดงให้เห็นว่าราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคม ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอันเนื่องมาจากภาษีนำเข้าของรัฐบาลทรัมป์
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) พฤษภาคม เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 2.5% ที่นักวิเคราะห์คาด จาก 2.3% ในเดือนเมษายน ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน(Core CPI)ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.8% ต่ำกว่า 2.9% ที่นักวิเคราะห์คาด จากที่ 2.8% ในเดือนเมษายน
โรเบิร์ต พาฟลิก ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโออาวุโสของ Dakota Wealth กล่าวว่า แม้ยังคงกังวลว่าภาษีศุลกากรของทรัมป์อาจทำให้เกิดเงินเฟ้อ แต่รายงานนี้ออกมาดีเกินคาด และทำให้มีความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ได้
เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 70% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายเดือนกันยายน
นักลงทุนรอรายละเอียดของข้อตกลงจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังจากทั้งสองฝ่ายบรรลุฉันทามติหลังการเจรจาสองวันในลอนดอน แต่ต้องขออนุมัติกรอบการทำงานจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจีนก่อนจะนำไปปฏิบัติ โดยส่วนหนึ่งของกรอบการทำงาน จีนจะอนุมัติการส่งออกแร่ธาตุหายาก ขณะที่สหรัฐฯ จะยกเลิกข้อจำกัดในการขายเทคโนโลยีขั้นสูงให้กับจีน
ในขณะที่กำลังสรุปกรอบงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฮาวเวิร์ด ลุตนิค กล่าวเมื่อวันพุธว่าภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐฯ จะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากระดับปัจจุบัน
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่า ข้อตกลงกับจีนทำให้สหรัฐสามารถเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนได้ 55% ซึ่งรวมถึงภาษี reciprocal” tariff พื้นฐาน 10% ภาษีลักลอบค้าเฟนทานิล 20% และภาษีที่เพิ่มจากภาษีที่มีอยู่เดิม 25% ขณะที่จีนจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 10%
หุ้น Tesla ขยับขึ้น 0.1% หลังจากที่ซีอีโออีลอน มัสก์ กล่าวว่าเขาเสียใจกับโพสต์เชิงลบเกี่ยวกับทรัมป์ในโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากโพสต์เหล่านั้นเกินเลยไป
หุ้น GameStop บริษัทจำหน่ายวิดีโอเกมร่วงลง 5.3% หลังจากรายงานว่ารายได้ไตรมาสแรกลดลง
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วงแรก เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทุกคนต่างจับตามองนั้นแทบไม่มีรายละเอียดใดๆ แม้มีคำมั่นว่าบรรลุข้อตกลงระดับสูงก็ตาม
แต่รายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่คาด ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากร และมีความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 551.64 จุด ลดลง 1.48 จุด, -0.27%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,864.35 จุด เพิ่มขึ้น 11.27 จุด, +0.13%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,775.90 จุด ลดลง 28.43 จุด, -0.36%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,948.90 จุด ลดลง 38.66 จุด, -0.16%
หลังจากเจ้าหน้าที่จากวอชิงตันและปักกิ่งตกลงกันในกรอบการทำงานเพื่อสงบศึกการค้าได้หนึ่งวัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐฯ และจีนได้บรรลุข้อตกลงแล้ว โดยจีนจจะจัดหาสารแม่เหล็กและแร่ธาตุหายากให้สหรัฐฯ
นักลงทุนยังคงมีความระมัดระวัง แม้การเจรจาจะจบลงด้วยการสงบศึก แต่นักวิเคราะห์ กล่าวว่านักลงทุนหวังว่าจะมีความคืบหน้าที่สำคัญกว่านี้
กลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งมักซื้อขายในฐานะตัวแทนพันธบัตร กลายเป็นกลุ่มที่มีผลงานดีที่สุดของวัน
กลุ่มค้าปลีกนำการลดลงของตลาด โดยลดลง 1.7% จากการร่วงลง 4.4% ของหุ้น Inditex เจ้าของแบรนด์ Zara รายงานยอดขายไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 3.17 ดอลลาร์ หรือ 4.88% ปิดที่ 68.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 2.90 ดอลลาร์ หรือ 4.34% ปิดที่ 69.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากรายงานข่าวเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง
———————————————————————————————————————————————————–

