CGSI เล็งหุ้นเหนือ 1,350 ขึ้นค่าแรง 400 บ.กระทบกำไร -0.8 ถึง -7.7%

HoonSmart.com>>”ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)” หรือ CGSI ลุ้น SET ยืนเหนือ 1,350 จุดได้ จับตาตัวเลขส่งออก-นำเข้าของไทยปลายสัปดาห์นี้ และงบบริษัทจดทะเบียนอื่นๆหลังรายงานงบแบงค์ไตรมาส 1/67 เสร็จสิ้น พร้อมประเมินขึ้นค่าแรงงาน 400 บาท ทั่วประเทศในวันแรงงานนี้ คาดกระทบ EPS ราว -0.8% ถึง -7.7%

บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ประเมิน SET กลับมายืนเหนือ 1,350 จุดได้หลังหลุดร่วงไปทดสอบ 1,330 จุด จับตาตัวเลขส่งออก-นำเข้าของไทยปลายสัปดาห์นี้ และงบฯบริษัทจดทะเบียนอื่นๆหลังรายงานงบแบงค์ไตรมาส 1/67 เสร็จสิ้น

สำหรับสินทรัพย์อื่นๆ เงินบาทอ่อนค่าทะลุระดับ 37.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ มากที่สุดในรอบ 6 เดือนหลังเข้าสู่ฤดูการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน, การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจจะช้ากว่าคาด

ประเด็นข่าวอื่นๆ ประกอบด้วยข่าวการขึ้นค่าแรง 400 บาท ทั่วประเทศในวันแรงงานนี้ CGSI ประเมินว่ากำไรต่อหุ้นของบจ. (EPS) จะลดลงตามลำดับ
กลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ : KCE (-2%), DELTA (-2%), HANA (-3.2%)
กลุ่มค้าปลีก : HMPRO (-0.8%), GLOBAL (-1.3%), CRC (-3.2%), DOHOME (-3.9%), BJC (-4.7%), CPALL (-5.1%), CPAXT (-5.3%)
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ : AP (-2.4%), LH (-1.2%), LPN (-2.7%), PSH (-4.6%), QH (-1.7%), SPALI (-1.7%), SIRI (-2%), ORI (-1.5%), ANAN (-7.7%)

หุ้นแนะนำ OSP คาดจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/67 ซึ่งเชื่อว่าจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้น พร้อมปรับ EPS สำหรับปี 67-69 ขึ้น 8.1-9.6% เพื่อสะท้อนถึงยอดขายที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่ายอดขายในไทยเติบโต 13% yoy เป็น 4.3 พันล้านบาทในไตรมาส 1/67 และยอดขายในพม่ามีแนวโน้มจะไม่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในประเทศโดยเราคาดยอดขาย Energy drink จะเติบโต 30% yoy ในไตรมาส 1/67 เมื่อรวมกับผลดีจากประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้นหลังปิดโรงงานเก่า รวมถึงแรงกดดันด้านต้นทุนที่ลดลงตามต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนพลังงาน จึงตั้งสมมติฐานว่า GPM จะเพิ่มขึ้นเป็น 36.4% ในไตรมาส 1/67 (+300bp yoy)

ERW เชื่อว่านักลงทุนกังวลกับค่าเช่าที่จะเพิ่มสูงขึ้นมากเกินไปเนื่องจากประมาณการของเราชี้ว่ากำไรสุทธิในปี 67-69 จะได้ปรับผลกระทบจำกัด ประมาณการว่า RevPAR (ไม่รวม Hop Inn) ของ ERW จะเพิ่มขึ้น 7% qoq ในไตรมาส 1/67 เพราะอุปสงค์ยังแข็งแกร่งและอัตราค่าห้องพักเพิ่มสูงขึ้น ด้านราคาหุ้น ERW underperform ดัชนี SET 9% ช่วงสามเดือนที่ผ่านมาและปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ -2SD ของ ค่าเฉลี่ยห้าปีก่อนโควิด-19 เพราะนักลงทุนกังวลกับค่าเช่าที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ERW ใกล้จะได้ ข้อสรุปเรื่องการต่อสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม Grand Hyatt Erawan (ประมาณ 20% ของ รายได้ในปี 67)

เนื่องจากอัตราค่าเช่าเพิ่งจะปรับขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 64-65 ค่าเช่าในปี 67-72 จึงน่าจะเพิ่มขึ้นจาก ปี 65 และปี 66 (ไม่ได้เปิดเผยตัวเลข) ไม่มากนัก จึงทำประมาณการกำไรสุทธิของ ERW อยู่ที่ 252 ล้านบาท (+6% yoy, +8% qoq) ในไตรมาส 1/67 ซึ่งรวมส่วนแบ่ง ขาดทุน 30 ล้านบาทจากโรงแรม Hop Inn ใหม่ 4 แห่งในประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า RevPAR ของโรงแรม Hop Inn ในญี่ปุ่นจะเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสที่เหลือจากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น จึงคาดว่าธุรกิจโรงแรมในประเทศนี้จะถึงจุดคุ้มทุนในระดับ EBITDA ในไตรมาส 3/67