“คิงส์ฟอร์ด”คาดSETมีโอกาสฟื้นตัว ตอ.กลางยังอยู่ในวงจำกัด แนะ NSL-TU

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองแนวโน้มหุ้นมีโอกาสฟื้นตัว จากคาดการณ์ความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่านยังอยู่ในวงจำกัด แนวต้าน 1,375 – 1,380 จุด ส่วนแนวรับ 1,355 – 1,360 จุด แนะนำทยอยซื้อกลุ่มปลอดภัยและสินค้าจำเป็น หุ้นวันนี้แนะ NSL-TU

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,355 – 1,360 จุด แนวต้าน 1,375 – 1,380 จุด คาดมีโอกาสฟื้นตัว จากคาดการณ์ความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่านยังอยู่ในวงจำกัด แนะนำทยอยซื้อกลุ่มปลอดภัยและสินค้าจำเป็น เช่น CPALL,CPAXT,TU,AAI,ITC,ICHI,SAPPE

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.12%, S&P500 -0.58%, Nasdaq -1.15% แรงขายกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Nvidia -3.87% จากความกังวลเฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยจนถึง ก.ย. นี้ ซึ่ล่าสุด CME Fed Watch ชี้โอกาส ที่เฟดจะคงดอกเบี้ย 5.25 – 5.50% ในการประชุม พ.ค., มิ.ย. และ ก.ค. โดยมีโอกาส 46.2% จะเริ่มลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 18 ก.ย. นี้ หลัง ประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณอาจตรึงดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด หลังตลาดแรงงานสหรัฐแข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังลดลงได้ช้า ค่ำวันนี้ติดตามความเห็นของ มิเชล โบว์แมน คณะผู้ว่าเฟด และ เมสเตอร์ ปธ.เฟดสาขาคลิฟแลนด์ ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นสมาชิกมีสิทธิ์โหวตของเฟด

ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากรายงาน CPI ยูโรโซน มี.ค. ลดลงอยู่ที่ 2.4% และ ก.พ. 2.6% YoY เช่นเดียวกับ CPI อังกฤษ มี.ค. ลดลงอยู่ที่ 3.2% และ ก.พ. 3.4% YoY ซึ่งเทรดเดอร์คาด ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. ขณะที่ BOE อังกฤษคาดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย.

ราคาน้ำมันดิบ WTI พ.ค. ลดลง 2.67 ดอลลาร์ อยู่ที่ 82.69 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent มิ.ย. ลดลง 2.73 ดอลลาร์อยู่ที่ 87.29 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เผยสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล สูงกว่าคาดที่ 1.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่สถานการณ์ในตะวันออกกลาง อิสราเอลจะโจมตีเป้าหมายในซีเรีย ซึ่งช่วยลดการกระทบทางตรงกับอิหร่าน

ด้านทองคำ Comex Gold มิ.ย. ลดลง 19.40 ดอลลาร์ อยู่ที่ 2,388.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดคาดเฟดอาจตรึงดอกเบี้ยสูงจนถึง ก.ย. นี้

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.593 %

ดัชนี BDI วานนี้ +65 จุด อยู่ที่ 1,844

BitCoin เช้านี้ -3.98% อยู่ที่ 61,479 ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ NSL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 29.25 บาท) แนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q67 เติบโตขึ้นต่อเนื่องหนุนจากรายได้การขายสินค้าผ่านช่องทาง 7-11 และการออกสินค้าใหม่ เป็นไปตามการฟื้นตัวของการบริโภคและการท่องเที่ยว โดยอัตรากำไรขั้นต้นคาดดีขึ้นจาก U-rate ที่อยู่ในระดับสูงขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบลดลง ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจาก Bake a wish คาดว่าจะทยอยลดลงเช่นกัน ส่วนแนวโน้มปี 67 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต +19% ขยายตัวผ่านช่องทาง 7-11 โดยการออกสินค้าใหม่ และเพิ่มสินค้า Brand ของตัวเอง และการส่งออกไปจีน ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 402 ล้านบาท +21%YoY และ 447 ล้านบาท +11%YoY

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท) ประเมินกำไรปกติ 1Q67 ที่ 979 ล้านบาท(+21%YoY, -17%QoQ) สามารถกลับมาฟื้นตัวได้เด่น YoY ในส่วนของ operation หลักทั้งรายได้ฝั่ง Petcare และ Ambient Seafood แม้จะมีปัจจัยกดดันจาก 1.1Q66 มีส่วนแบ่งกำไรจาก Red Lobster ราว +134 ล้านบาท (1Q67 ไม่รับรู้แล้วหลังถอนทุน RL ใน 4Q66) และ 2.GPM ที่โดนกดดัน QoQ จากฝั่ง Ambient และ Frozen

ส่วน 2Q67 เบื้องต้นคาด +YoY จากฐานต่ำปีก่อน(2Q66 คู่ค้ายังมี Inventory สูง)/ ไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากRL(-193 ล้านบาท ใน 2Q66) และ +QoQ จากออเดอร์ปรับขึ้นตามฤดูกาล รวมถึงจะได้ประโยชน์เต็มที่จากต้นทุนปลาทูน่าอยู่ในโซนต่ำมากกว่าในช่วง 1Q67 ที่ต้นทุนปรับลงตามราคาขายทูน่ากระป๋อง OEM ที่ปรับลงก่อนไม่ทัน