HoonSmart.com>> กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน 3BBIF ไตรมาส 1/67 กำไรสุทธิ 1,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1,430 ล้านบาท รายได้รวม 1,882 ล้านบาท ลดลง 29.13% รับรู้ผลขาดทุนการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนกว่า 399 ล้านบาท ฉุดกำไรจากการลงทุนสุทธิอยู่ที่ 1,489 ล้านบาท ลดลง 34.39% งดจ่ายปันผลเหตุยังขาดทุนสะสม เคาะจ่ายเงินลดทุน 0.1900 บาทต่อหน่วย ขึ้น XN 10 พ.ค.นี้
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สามบีบี (3BBIF) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 พลิกกำไรสุทธิ 1,089.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1,430 ล้านบาท
กองทุนมีรายได้รวมจำนวน 1,882.40 ล้านบาท ลดลง 29.13% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.24% จากไตรมาสก่อน โดยมาจากรายได้ค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง 1,857.33 ล้านบาท ลดลง 29.76% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (เนื่องจากค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงตามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาประกันรายได้ค่าเช่าเรียกเก็บถึงวันที่ 24 ส.ค.2566) และเพิ่มขึ้น 1.23% จากไตรมาสก่อน รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 111.92% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 2.12% จากไตรมาสก่อนและรายได้อื่นลดลง 100.00% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
กำไรจากการลงทุนสุทธิจำนวน 1,489.29 ล้านบาท ลดลง 34.39% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (สาเหตุหลักจากค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงตามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาประกันรายได้ค่าเช่าเท่ากับ 802.76 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน โดยเรียกเก็บถึงวันที่ 24 ส.ค.2566 ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุน ครั้งที่ 1/2566) และเพิ่มขึ้น 0.25% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 0.25% จากไตรมาสก่อน ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน 399.96 ล้านบาท (ในเดือนมี.ค.2567 กองทุนได้ว่าจ้างผู้ประเมินอิสระประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงให้เป็นมูลค่ายุติธรรมใหม่ ซึ่งเป็นมูลค่า 75,300 ล้านบาท จึงรับรู้ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนจากการประเมินมูลค่าเงินลงทุนดังกล่าวจำนวน 400.00 ล้านบาท
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ณ วันที่ 31 มี.ค.2567 เท่ากับ 67,016.98 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.3771 บาทต่อหน่วย ลดลงจากสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 8.4009 บาทต่อหน่วย
สินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 1,089.33 ล้านบาท หรือ 176.18% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 124.37% จากไตรมาสก่อน
ด้านค่าใช้จ่ายรวมมีจำนวน 393.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.78% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 5.18% จากไตรมาสก่อน โดยเป็นค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุน 26.62 ล้านบาท ลดลง 7.73% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 7.04% จากไตรมาสก่อน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 143.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.67% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 27.03% จากไตรมาสก่อน (ค่าบริหารดูแลและบำรุงรักษาทรัพย์สิน 109.65 ล้านบาท ค่าสิทธิแห่งทาง 32.06 ล้านบาท ค่าประกันภัย 2.24 ล้านบาท) ขณะที่ต้นทุนทางการเงิน 219.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.57% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ ลดลง 3.34% จากไตรมาสก่อน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 3.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.46% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและลดลง 61.19% จากไตรมาสก่อน
คณะกรรมการกองทุนมีมติให้งดจ่ายเงินปันผลงวดการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 (1 ม.ค.2567-31 มี.ค.2567) เนื่องจากขาดทุนสะสม 7,106.82 ล้านบาท ในไตรมาสนี้การจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 0.1900 บาทต่อหน่วย จะจ่ายในรูปของเงินลงทุน โดยจะขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิในการรับเงินลดทุน (XN) วันที่ 10 พ.ค.2567 ปิดสมุดทะเบียนวันที่ 14 พ.ค.2567 และจ่ายเงินลดทุนวันที่ 31 พ.ค.2567