ดาวโจนส์ดิ่ง 475 จุด วิตกตอ.กลาง ผิดหวังผลดำเนินงานแบงก์ใหญ่

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐ 3 ดัชนีหลักปิดร่วงแรง ดาวโจนส์ดิ่ง 475 จุด แรงเทขายวิตกสถานการณ์ตะวันออกกลาง หลังมีข่าวอิสราเอลตรียมพร้อมรับมือการโจมตีจากอิหร่าน ดันราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น Brent ทะลุ 90 ดอลลาร์อีกครั้ง นักลงทุนยังผิดหวังผลประกอบการแบงก์ใหญ่ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวกเล็กน้อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 12เมษายน  2567  ปิดที่ 37,983.24 จุด ลดลง 475.84 จุด หรือ -1.24% จากแรงเทขายด้วยความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และ เงินเฟ้อ บวกความผิดหวังจากผลประกอบการของธนาคารใหญ่
      
ดัชนี S&P500 ปิดที่  5,123.41 จุด ลดลง 75.65 จุด, -1.46%
      
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,175.09 จุด ลดลง 267.10 จุด, -1.62%
      
ระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงไปถึง 582 จุดหรือ 1.51% และดัชนี S&P500 ลดลงถึง 1.75% และเป็นการปรับลงภายในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม
      
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนี S&P500 ลดลง 1.55% เป็นการปรับลงรายสัปดาห์มากที่สุดของปี ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 2.37%และดัชนี  Nasdaq ลดลง 0.45%
      
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีซื้อขายที่ประมาณ 4.56% ทรงตัวหลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนในวันพุธ
      
แองเจโล คูร์กาฟาส นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสของEdward Jones กล่าวว่า มีหลายปัจจัยที่กระทบตลาดทั้งความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่สูงขึ้น ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และความผิดหวังต่อผลประกอบการอยู่บ้าง
      
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า อิสราเอลตรียมพร้อมการรับมือการโจมตีจากอิหร่านที่ขู่ว่าจะแก้แค้นในช่วงสุดสัปดาห์เนื่องจากทิ้งระเบิดใส่สถานทูตของอิหร่านในดามัสกัสของซีเรีย
      
รายงานข่าวนี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับสูงขึ้น และยิ่งทำให้กังวลต่อเงินเฟ้อมากขึ้น
      
ร็อบ ฮาเวิร์ธ  นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสด้านการจัดการความมั่งคั่งของU.S. Bank Wealth Management กล่าวว่า นักลงทุนลดความเสี่ยงก่อนสิ้นสัปดาห์ และหันไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัย เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และขายหุ้นออก
      
นอกจากนี้ข้อมูลเงินเฟ้อที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังค่อนข้างร้อนแรงและอัตราเงินเฟ้อยังไม่ปรับลง ทำให้นักลงทุนปรับความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ออกไป และเป็นเหตุผลของการระมัดระวังในช่วงสุดสัปดาห์
      
นางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟด แห่งบอสตันคาดว่า จะการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
      
ผู้บริโภคยังมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากการสำรวจผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ในเดือนเมษายนอยู่ที่ 77.9 ต่ำกว่า 79.9
      
การปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มธนาคารหลังรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังก็เป็นแรงถ่วงตลาด   
      
หุ้นเจพีมอร์แกน เชสลดลงกว่า 6% หลังรายงานกำไรเพิ่มขึ้นแต่คาดการณ์รายได้จากดอกเบี้ยในปี 2024 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
      
หุ้น เวลส์ ฟาร์โก ลดลง 0.4% แม้รายได้ดีกว่าคาด แต่รายได้จากดอกเบี้ยสุทธิลดลงมากกว่าคาด
      
หุ้นซิตี้กรุ๊ป ลดลง 1.7% แม้รายได้และกำไรดีกว่าคาด
      
หุ้นเอ็กซอน โมบิลวิ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดของวันที่ 123.74 ดอลลาร์หลังราคาน้ำมันดิบพุุ่ง ก่อนที่จะปิดที่ 123.59 ดอลลาร์หรือเพิ่มขึ้น 1.48%

      
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ที่กลบมุมมองทางบวกต่อการส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหภาพยุโรป(ECB)
      
กลุ่มรถยนต์และกลุ่มเดินทางและสันทนาการนำการปรับลง ส่วนกลุ่มพลังงานปรับขึ้น 2.4% ไปที่ระดับสูงสุดรับตั้งแต่ปี 2008 จากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น จากปัจจัยความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
      
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูลดลง 1.3% ไปที่ระดับใกล้ต่ำสุดรอบ 2 เดือน โดยหุ้น LVMH และ Richemont ลดลง 1.2% และ 3% ตามลำดับ
      
อย่างไรก็ตามนักลงทุนส่วนหนึ่งยังคลายกังวลหลังตัวเลขเงินเฟ้อขั้นสุดท้ายเดือนมีนาคมของยูโรโซน ทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปนทรงตัว
      
กลุ่มทรัพยากรพื้นฐานบวก 2.4% ไปที่ระดับสูงสุดรอบ 1 ปี จากราคาทองแดงที่พุ่งขึ้นไปที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2022
      
หุ้นโซซิเอเจ้น เจนเนอรัลบวก 2.1% หลังตกลงขายl Société Générale Marocaine de Banques และ La Marocaine Vie ให้กับ  Saham Group บริษัทข้ามชาติจากโมร็อกโค ในมูลค่า 745 ล้านยูโร
      
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 505.25 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด, +0.14%
      
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,995.58 จุด เพิ่มขึ้น 71.78 จุด, +0.91%
            
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ ที่ 8,010.83 จุด ลดลง 12.91 จุด, -0.16%
      
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่  17,930.32 จุด ลดลง 24.16 จุด, -0.13%
      
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 85.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.79% ปิดที่ 90.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล