HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดร่วง 11.79 จุด หลุดแนว 1,400 จุด แรงกดดันจากนอกประเทศ โดยบอนด์ยีลด์-เงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้น หลังเงินเฟ้อสูงกว่าคาด หวั่นเฟดไม่เร่งลดดอกเบี้ย และเงินเฟ้อจีนชะลอตัวลง กังวลการฟื้นตัวเศรษฐกิจ-วิตกจะเกิดภาวะเงินฝืด นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,816.30 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,716.51 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้มีโอกาสผันผวน พร้อมให้แนวรับ 1,385-1,390 แนวต้าน 1,405-1,410 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 11 เม.ย.67 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,396.38 จุด ลดลง 11.79 จุด หรือ -0.84% มูลค่าซื้อขาย 42,952.35 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,406.77 จุด ต่ำสุด 1,394.71 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,816.30 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 828.22 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,716.51 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 728.43 ล้านบาท
น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลง ลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาวช่วงสงกรานต์ อีกทั้งดัชนีฯก็ปรับขึ้นไปมากแล้วจากระดับ 1,370 ขึ้นไปแถว 1,400 จุด ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้างหลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาสูงกว่าคาด ทำให้มองธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจไม่เร่งลดดอกเบี้ย ซึ่งน้ำหนักการลดดอกเบี้ยตอนนี้ไปอยู่ที่เดือนก.ค.จากเดิมมิ.ย. ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับขึ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น กดดันตลาดเอเชีย
นอกจากนี้ เงินเฟ้อเดือนมี.ค.ของจีนก็ออกมาชะลอตัวลง ทำให้ตลาดกังวลการฟื้นตัวเศรษฐกิจของจีน และยังอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดด้วย ทำให้ไปกดดันบรรยากาศการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย และส่ง Sentiment ลบมาจากยังตลาดหุ้นไทยด้วย
สำหรับเรื่องที่กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็สร้างความผิดหวังในระดับหนึ่ง แต่มองกลุ่มธนาคารได้ประโยชน์จากที่ดอกเบี้ยยังทรงตัวสูง และไม่ได้ลดดอกเบี้ย แต่กลุ่มไฟแนนซ์มีแรงขายหลังเก็งว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในช่วงก่อนหน้านี้ แต่กนง.ก็ยังไม่ลดดอกเบี้ย ส่วนความคืบหน้า Digital Wallet มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ก็มีแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นที่ได้ประโยชน์บ้าง รวมถึงท่องเที่ยวยังเป็นกลุ่มที่มีแรงเก็งกำไร และกลุ่มเครื่องดื่มก็น่าสนใจจากหน้าร้อน ดังนั้นจึงมองปัจจัยในประเทศยังเป็นบวก ขณะที่ปัจจัยนอกประเทศยังมีความไม่แน่นอนอยู่
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าตลาดมีโอกาสผันผวน จากปัจจัยนอกประเทศทั้งเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ย และเศรษฐกิจจีน รวมถึงหลายธนาคารจะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผล พร้อมให้แนวรับ 1,385-1,390 จุด แนวต้าน 1,405-1,410 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BBL ปิดที่ 144.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +1.40% มูลค่าซื้อขาย 2,811.17 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 115.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 2,808.34 ล้านบาท
KTB ปิดที่ 17.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ +1.18% มูลค่าซื้อขาย 1,629.92 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 126.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +1.18% มูลค่าซื้อขาย 1,589.75 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 158.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.63% มูลค่าซื้อขาย 1,455.28 ล้านบาท