หุ้นเช้านี้ลบ 2.32 จุด หวั่นเฟดลดดบ.ปีนี้แค่ 2 ครั้งหลังเงินเฟ้อยังสูง

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 2.32 จุด เงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงกว่าตลาดคาด หวั่นเฟดลดดอกเบี้ยปีนี้แค่ 2 ครั้ง ส่งบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 11 เม.ย. 2567 ณ เวลา 10.01 น.อยู่ที่ระดับ 1,405.85 จุด ลดลง 2.32 จุด หรือ -0.16% มูลค่าซื้อขาย 4,013.53 ล้านบาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลง มีแรงซื้อกลับจากหุ้นที่เคยถูก short sell แต่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ มีผลต่อตลาดในเชิงลบ โดยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (3.5% จากที่คาด 3.4%) ทำให้นักลงทุนตีความไปว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยปีนี้ ได้เพียง 2 ครั้ง (จากเดิม 3 ครั้ง) ตลาดหุ้นถูกกระทบมากที่สุด ส่วนตลาดพันธบัตร Bond Yield ขึ้นมารอก่อนหน้านี้ จึงกระทบไม่มาก (ล่าสุด Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯ 4.55%) สินทรัพย์ 6 ตัว ที่จะเป็นลบจากการปรับคาดการณ์เรื่องการลดดอกเบี้ยของเฟด คือ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ , พันธบัตรสหรัฐฯ , ตลาดหุ้น+พันธบัตร+ค่าเงินเยนของญี่ปุ่น , ราคาทองคำ, ราคา Commodity , ตลาดหุ้น+ค่าเงินบาทของไทย ทั้งนี้ ผลกระทบจะกินเวลาประมาณ 1-3 วัน

การเผยรายละเอียด Digital Wallet และ ประชุม กนง. ผ่านไปแล้ว โดย งบในโครงการ Digital Wallet เป็นตามที่เราคาด คือ ที่มาของ 5 แสนล้านบาท ผันจากงบรายจ่าย 2 ปี และดึงจากส่วนอื่นๆ ที่ต้องตามต่อคือ การกระตุ้น GDP ทำได้ขนาดไหน และกระเทือนต่องบประมาณส่วนอื่นๆ หรือหนี้รัฐบาลจะเพิ่มขนาดไหน หุ้นที่ได้ประโยชน์ทางตรงที่เห็นตอนนี้ คือ ค้าส่ง+ค้าปลีก ที่เลือก CRC, CPAXT, COM7, BJC

กนง. คงอัตราดอกเบี้ย ทำให้หุ้นอสังหาฯ (SPALI, QH) ดูน่าสนใจน้อยลง แต่ดีต่อหุ้นธนาคาร (KTB และธนาคารอื่นๆ)

ความเสี่ยงของตลาดโลก ยังคงอยู่ที่สถานการณ์ตะวันออกกลาง ยังคงกดดันเศรษฐกิจโลกและเงินเฟ้อ ต่อ หลัง ผู้นำสูงสุดของอิหร่านลั่น อิสราเอลต้องถูกลงโทษ ฐานถล่มสถานกงสุลในซีเรีย และอิสราเอลเตรียมบุกราฟาห์ ในอีกไม่กี่วัน

Event สำคัญๆ วันนี้ ศาลปกครองสูงสุด นัดพิจารณาคดีสายสีส้มครั้งแรก (11 เม.ย.) , ตัวเลขเงินเฟ้อของจีน(11 เม.ย.) , ประชุม ECB (11 เม.ย.), ตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตของสหรัฐฯ(11 เม.ย.) , ตัวเลขเคลมการว่างงานของสหรัฐฯ(11 เม.ย.)

ด้านกลยุทธ์ มอง 2 เรื่องใหญ่ถูกเฉลยไปแล้ว อาจเกิด sell on fact (ยกเว้นหุ้นค้าส่ง-ค้าปลีก -หุ้นที่ทำ Short Covering) กลยุทธ์วันนี้ เป็น selective buy สลับขายทำกำไรหุ้นที่ขึ้นมามาก(หรือที่ซื้อมาก่อนหน้านี้)

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BBL อยู่ที่ 145.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ +2.11% มูลค่าซื้อขาย 843.06 ล้านบาท
SCB อยู่ที่ 116.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.43% มูลค่าซื้อขาย 661.06 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 127.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +1.19% มูลค่าซื้อขาย 279.83 ล้านบาท
KTB อยู่ที่ 17.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ +1.18% มูลค่าซื้อขาย 252.55 ล้านบาท
SABUY อยู่ที่ 2.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +3.68% มูลค่าซื้อขาย 184.50 ล้านบาท