“คิงส์ฟอร์ด” คาดหุ้นทดสอบแนวต้าน 1,405–1,415 จุด แนะ GPSC-TU

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองแนวโน้มหุ้นวันนี้ ดัชนีขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,405 – 1,415 จุด ส่วนแนวรับ 1,390 จุด ได้แรงหนุนจากงบประมาณปี 67 จะเริ่มเบิกจ่ายได้ในเดือนเม.ย.นี้ จับตาผลประชุม กนง.-มาตรการดิจิทัลวันนี้ หุ้นแนะนำ GPSC-TU

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,405 – 1,415 จุด โดยมีแนวรับ 1,390 จุด ได้แรงหนุนจากงบประมาณปี 67 จะเริ่มเบิกจ่ายได้ในเดือนนี้ กอปรกับแนวโน้มลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังปี 67 วันนี้ติดตามผลการประชุม กนง. ว่าจะมีเสี่ยงหนุนให้ลดดอกเบี้ยเพิ่มหรือไม่ รวมถึงการแถลงรายละเอียด มาตรการดิจิทัล วอลเล็ต ด้านนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิวานนี้ 6 พันล้านบาท แนะนำทยอยซื้อค้าปลีก CPALL,CPAXTท่องเที่ยว AOT,AAV,BA,ERW อสังหาฯ LH,QH,AP,SPALI,PSH,SC,SIRI

ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.02%, S&P500 +0.14%, Nasdaq +0.32% ตลาดทรงตัวรอตัวเลขเงินเฟ้อที่จะรายงานในช่วงค่ำวันนี้ โดยคาด US CPI มี.ค. อยู่ที่ 3.4% และ ก.พ. 3.2% YoY และ US Core CPI มี.ค. คาด 3.7% และ ก.พ. 3.8% YoY รวมถึง Fed Minutes 19 – 20 มี.ค. เพื่อประเมินโอกาสที่จะลดดอกเบี้ย ซึ่งล่าสุด CME Fed Watch ชี้โอกาสเพียง 51% จะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุม 12 มิ.ย. หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐยังมีสัญญาณร้อนแรง

ส่วนวันศุกร์นี้จะเริ่มรายงานกำไร Q1/67 ของกลุ่มธนาคารสหรัฐ เช่น JP.Morgan, Citi Group, Wells Fargo ซึ่ง LSEG คาดกำไร Q1/67 บจ.ใน S&P500 +7.0% และ ก่อนหน้านี้คาด +7.2% YoY

ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.20 ดอลลาร์/บาร์เรล อยู่ที่ 85.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่่วน Brent ลดลง 0.96 ดอลลาร์ อยู่ที่ 89.42 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกองทัพอิสราเอลได้ลดจำนวนทหารในตอนใต้ของฉนวนกาซา และเริ่มเจรจาหยุดยิงรอบใหม่กับกลุ่มฮามาส ช่วยลดความกังวลต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก ขณะที่ API เผยสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 3.03 ล้านบาร์เรล

ด้านทองคำ Comex Gold ปรับเพิ่มขึ้น 11.40 ดอลลาร์ อยู่ที่ 2,362.40 ดอลลาร์/ออนซ์ รับข่าวธนาคารกลางหลายแห่งเข้าซื้อทองคำ และเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์สูงขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ GPSC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 59.75 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q67 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ เป็นผลจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย.67 ขึ้นมาที่ 4.18 บาท/หน่วย ประกอบกับต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่ลดต่ำลงตามฤดูกาล ช่วยหนุนอัตรากำไรดีขึ้น ส่วนในปี 67 คาดค่าไฟฟ้ามีโอกาสขยับขึ้นหรือทรงตัวจากงวดปัจจุบัน อีกทั้งได้ผลบวกจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง

นอกจากนี้จะได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ รวมถึง earning momentum ที่น่าจะดีต่อเนื่องใน 2Q67 เพราะเป็น high season ความต้องการใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 5.17 พันล้านบาท +40%YoY

หุ้น TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท) ประเมินกำไรปกติ 1Q67 ที่ 979 ลบ.(+21%YoY, -17%QoQ) สามารถกลับมาฟื้นตัวได้เด่น YoY ในส่วนของ operation หลักทั้งรายได้ฝั่ง Petcare และ Ambient Seafood แม้จะมีปัจจัยกดดันจาก 1.1Q66 มีส่วนแบ่งกำไรจาก Red Lobster ราว +134 ล้านบาท (1Q67 ไม่รับรู้แล้วหลังถอนทุน RL ใน 4Q66) และ 2.GPM ที่โดนกดดัน QoQ จากฝั่ง Ambient และ Frozen

ส่วน 2Q67 เบื้องต้นคาด +YoY จากฐานต่ำปีก่อน(2Q66 คู่ค้ายังมี Inventory สูง)/ ไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากRL(-193 ล้านบาท ใน 2Q66) และ +QoQ จากออเดอร์ปรับขึ้นตามฤดูกาล รวมถึงจะได้ประโยชน์เต็มที่จากต้นทุนปลาทูน่าอยู่ในโซนต่ำมากกว่าในช่วง 1Q67 ที่ต้นทุนปรับลงตามราคาขายทูน่ากระป๋อง OEM ที่ปรับลงก่อนไม่ทัน