กลุ่ม EA แรงยกแผง รับพันธมิตร หุ้นพุ่ง1,401 ต่างชาติไล่ซื้อ 6 พันลบ.

HoonSmart.com>> กลุ่ม EA เป็นพระเอก “เน็กซ์ พอยท์” (NEX) บล.บียอนด์ (BYD)และพลังงานบริสุทธิ์ วิ่งแรงนำตลาด รับข่าวดี พันธมิตรธุรกิจใหม่ ด้านตลาดหุ้นไทยเซอร์ไพรส์ พุ่งกระฉูด 25.53 จุด + 1.86% ดัชนีปิดที่จุดสูงสุดของวัน 1,401.11 จุด ด้วยแรงซื้อหนักมือของต่างชาติสูงถึง  6,037.79 ล้านบาท ซื้ออนุพันธ์ 76,647 สัญญา ชนะตลาดในภูมิภาค ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.08% ปัจจัยบวก รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ กนง.ไม่ลดดอกเบี้ย เงินบาทแข็งค่าขึ้น นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มประมาณการกำไรบจ.

วันที่ 9 เม.ย.2567 ดัชนีปิดที่ระดับสูงสุด 1,401.11 จุด เพิ่มขึ้น 25.53 จุด หรือ +1.86% มูลค่าซื้อขาย 48,387.73 ล้านบาท เกิดจากนักลงทุนต่างประเทศซื้อมากถึง 6,037.79 ล้านบาท สวนทางนักลงทุนไทยขายทำกำไร 5,656.29 ล้านบาท และสถาบันขายสุทธิ 402.24 ล้านบาท ทำให้หุ้นบวกหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ที่มีข่าวดีสนับสนุน โดย EA ปิดที่ 35.25 บาท บวก 3 บาทหรือ +9.30% มูลค่าซื้อขาย 901.06 ล้านบาท บริษัทเน็กซ์ พอยท์ (NEX) ปิดที่  10.10 บาท +0.60 บาทหรือ +6.32% บล.บียอนด์ (BYD) ปิดที่ 3.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาทหรือ +6.02%

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ (NEX) กล่าวว่า บริษัทเน็กซ์ พอยท์ ร่วมลงนามกับ บริษัท โตโยต้า ทูโช คอร์ปอเรชั่น และบริษัท เดนโซ่ คอร์ปอเรชั่น  เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าพาณิชย์ พลังงานไฮโดรเจนรายแรกในประเทศไทย คาดผลิตต้นแบบให้แล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4/2567  บริษัทฯ มุ่งนำไปให้บริการในกลุ่มบริษัทพันธมิตรทางธุรกิจที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการนำมาใช้งานเชิงพาณิชย์ในประเทศ และมุ่งเน้นสำหรับการใช้งานในกลุ่มรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือสูงกว่ารถสันดาป สามารถวิ่งได้ในระยะทางไกลต่อการเติมเชื้อเพลิงหนึ่งครั้ง และลดการปล่อยมลภาวะ

“เป็นการพัฒนาที่ก้าวไปอีกขั้น จากการผลิตยานยนต์เชิงพาณิชย์ พลังงานไฟฟ้า 100 % มาเป็นพลังงานไฮโดรเจนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบสนองความเป็นกลางทางคาร์บอนตามนโยบายของรัฐบาล ที่พยายามผลักดันและสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ทั้งรถบัสโดยสารไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้า โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนำมาหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้ 2 เท่า ” นายคณิสสร์ กล่าว

ปัจจุบันโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ของ NEX มีกำลังการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ถึงปีละประมาณ 9,000 คัน มียอดขายรถจำนวน 5,556 คัน ยังมีคำสั่งซื้อค้างอยู่ 2,757 คัน  ความไว้วางใจจาก โตโยต้า ทูโช และ เดนโซ่ เป็นการตอกย้ำถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและศักยภาพของบริษัท เชื่อว่าน่าจะผลักดันเป้าหมายผลประกอบการแตะ 20,000 ล้านบาท ในสิ้นปี 2567

นอกจากนี้ NEX พร้อมส่งยานยนต์ EV บุก สปป.ลาว เซ็น MOU กับ Zaha trust trading and service Co., LTD. (ZTTS)  แต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ยานยนต์ไฟฟ้าของ NEX เชิงพาณิชย์รายแรกและรายเดียวใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในนครหลวงเวียงจันทน์ และแขวงสะหวันนะเขต  สัญญา 3 ปี คาดว่าจะสร้างยอดขายได้ภายในปี 2567 นี้

ขณะที่ บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ร่วมกับบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) ศึกษาแผนร่วมทุนตั้งบริษัทใหม่ประกอบธุรกิจผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel (SAF) รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมในอนาคต ทั้งในประเทศไทย และในอาเซียน ส่งเสริมเป้าหมายอุตสาหกรรมการบินก้าวสู่ Net Zero ภายในปี 2573

ด้านตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงที่สุดในภูมิภาค +1.86% ชนะญี่ปุ่นที่บวก 1.08% และฮ่องกง + 0.57%  หลังจาดครม.มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สนับสนุนให้ GDP ในปีนี้โตเพิ่มขึ้น 1.7-1.8% รวมถึงตลาดหลักทรัพย์คาดหวังการเร่งใช้งบประมาณปี 2567 จะดึงดูดเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนมากขึ้น และนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มประมาณกำไรต่อหุ้นในปีนี้ด้วย

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดี จากแรงซื้อเข้ามาเกือบทุกกลุ่ม คาดเข้ามาเก็งกำไรช่วงรอความคืบหน้า Digital Wallet และการประชุมกนง. วันที่ 10 เม.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะไม่ลดดอกเบี้ย ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นวันนี้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดดอกเบี้ยน้อยลง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้น สวนทางตลาดยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ จากแรงขายทำกำไรหลังขึ้นไปมากแล้ว

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) ตลาดมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวน โดยให้แนวรับ 1,383 จุด แนวต้าน 1,402 จุด