หุ้นปิดพุ่ง 25.53 จุด ปัจจัยในปท.หนุนบาทแข็งค่า ส่งต่างชาติซื้อ 6 พันลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดพุ่ง 25.53 จุด แรงซื้อเข้ามาเกือบทุกกลุ่ม เก็งความคืบหน้า Digital Wallet-ผลประชุมกนง. ที่คาดจะไม่ลดดอกเบี้ย ส่งบาทแข็งค่าขึ้น นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 6,037.79 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 5,656.29 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้มีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวน โดยให้แนวรับ 1,383 จุด แนวต้าน 1,402 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 9 เม.ย.67 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,401.11 จุด เพิ่มขึ้น 25.53 จุด หรือ +1.86% มูลค่าซื้อขาย 48,387.73 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,401.11 จุด ต่ำสุด 1,376.83 จุด

นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 6,037.79 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 20.74 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 5,656.29 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 402.24 ล้านบาท

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดี จากแรงซื้อเข้ามาเกือบทุกกลุ่ม คาดว่าจะเป็นการเข้ามาเล่นเก็งกำไรช่วงรอความคืบหน้า Digital Wallet และการประชุมกนง. ซึ่งคาดว่าจะไม่ลดดอกเบี้ย ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นวันนี้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดดอกเบี้ยน้อยลง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้น สวนทางตลาดยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ จากแรงขายทำกำไรหลังขึ้นไปมากแล้ว

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) ตลาดมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวน โดยให้แนวรับ 1,383 จุด แนวต้าน 1,402 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ มองเป็น Sentiment บวกจากที่ลดค่าโอนอสังหาฯจาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาฯจาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับการซื้อขายอสังหาฯ พวกที่อยู่อาศัย โดยมีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท จากเดิมไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งการขยายตรงนี้ทำให้ช่วยกระตุ้นตลาดระดับกลางได้บ้าง เพราะวงเงินไม่เกิน 7 ล้านบาท จะครอบคลุม 80% ของตลาดที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี ต้องขึ้นอยู่กับภาพเศรษฐกิจ จะส่งผลให้แบงก์เร่งปล่อยสินเชื่อให้ด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ มาตรการนี้ทำให้คนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยง่ายขึ้น จากที่มีการลดค่าธรรมเนียม, ค่าโอน ก็ทำให้ผู้ประกอบการขายได้มากขึ้น จากเดิมวงเงินแค่ 3 ล้านบาท เป็นตลาดระดับล่าง ซึ่งแบงก์จะไม่ค่อยปล่อยสินเชื่อ พร้อมมองหุ้น AP และ SPALI ได้ประโยชน์ เนื่องจากมีโครงการระดับราคา 3-7 ล้านบาท พร้อมขายหรือโอนในปีนี้มากสุด และเป็นผู้ทำตลาดระดับกลางอยู่ จึงแนะนำ”ซื้อ” โดย AP ราคาเป้าหมาย 13.2 บาท ส่วน SPALI ราคาเป้าหมาย 24 บาท

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
NEO ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 7.25 บาท หรือ +18.59% มูลค่าซื้อขาย 3,517.92 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.31% มูลค่าซื้อขาย 2,009.20 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 56.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.45% มูลค่าซื้อขาย 1,971.67 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 207.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ +1.47% มูลค่าซื้อขาย 1,704.41 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 125.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +1.21% มูลค่าซื้อขาย 1,659.69 ล้านบาท