AURA ตั้งเป้าธุรกิจขายฝากทอง 2 หมื่นล.ปี’70 ลดเสี่ยงราคาทองขึ้น-ลง

HoonSmart.com>>ออโรร่า ดีไซน์ ตั้งเป้าธุรกิจขายฝากทองแตะ 2 หมื่นล้านบาท ปี’70 ปีนี้โต 54% ยืนที่ 7,500 ล้านบาท ปรับสัดส่วนรายได้ซื้อ-ขายทองอยู่ที่ 40% จาก 60% จ่อออกหุ้นกู้ 2 พันล้านไตรมาส 3 ลดต้นทุน ลดทอนผลกระทบจากราคาทองผันผวน เพิ่มเสถียรภาพกำไรในระยะยาว

นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ (AURA) เปิดเผยว่า
แผนธุรกิจ 2568–2570 จะเติบโตภายใต้แนวคิด“Exponential Expansion” หรือโตแบบก้าวกระโดด โดยในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือปี 2570 โดยตั้งเป้าธุรกิจขายฝากทองรวม 20,000 ล้านบาท โดยปีนี้ 2568 อยู่ที่ 7,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากปี 2567 ปี 2569 เพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% และปี 2570 อยู่ที่ 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67%

ทั้งนี้ เพื่อสร้างเสถียรภาพของกำไรและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในอนาคต บริษัทฯ วางสัดส่วนช่องทางรายได้จากธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับอัญมณี หรือ Gold Jewelry Business 44% จากปัจจุบัน 60% ในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือปี 2570 และสัดส่วนรายได้ธุรกิจขายฝากทอง หรือ Gold Financing Business เพิ่มเป็น 40% จากปัจจุบัน 20% ส่วนรายได้จากสินค้ากลุ่มไฮมาร์จิ้น อยู่ที่ 16% จากปัจจุบัน 20%

ผลที่จะได้ คือจะทำให้กำไรของบริษัทนิ่งขึ้น กำไรจะแข็งแรงขึ้น ไม่เหวี่ยงตามราคาทองที่ขึ้น-ลง เหมือนตอนที่รายได้เกินครึ่งมาจากการซื้อทองมาและขายทองออก

แม้บริษัทยังมีมุมบวกต่อราคาทองคำว่าจะยังไปต่อได้อีกใน 2 ปีข้างหน้า และสามารถบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงิน และจัดการสต๊อกทองคำได้เพียงพอกับความต้องการ แต่ต้องการรักษาระดับกำไรให้นิ่ง ราคาทองที่ขึ้น-ลง จะเปลี่ยนจากที่กระทบตรงๆ เป็นกระทบทางอ้อม สร้างความมั่นใจให้นักลงทุน

“ก่อนเข้าตลาดเรามีสต๊อกทองคำ 100 กิโลกรัม หลังเข้าตลาดซัพพลายเออร์ ปล่อยทองให้เราสต๊อกเป็น 400 กิโลกรัม คิดเป็นเม็ดเงินมูลค่า 1,200 ล้านบาทโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเลย และใน 3 ปีนี้ คือปี 2568-2570 เขาบอกแล้วว่าจะให้เรา 800 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาทโดยไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งได้ประโยชน์ร่วมกัน เราก็มีสต๊อกทองเพียงพอ ไม่ว่าทองจะขึ้นหรือลง เราก็ยังให้บริการลูกค้าได้ตลอด และบริหารต้นทุนกำไร สร้างการเติบโตได้ต่อเนื่อง”นายอนิพัทย์ กล่าว

2 ธุรกิจหลัก เสริมสินค้าต่อยอด

นายอนิพัทย์ กล่าวว่า เพื่อให้เป็นไปตามแผน จะมุ่งขยายธุรกิจ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับอัญมณี หรือ Gold Jewelry Business ภายใต้แบรนด์ ออโรร่า (AURORA) กับ เซ่งเฮง, ธุรกิจขายฝากทอง หรือ Gold Financing Business ภายใต้แบรนด์ ทองมาเงินไป และเสริมรายได้ด้วยการขยายธุรกิจสู่แบรนด์และกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เตรียมขยายไปยังกลุ่มทอง 75% หรือทอง 18K ,ไข่มุก และจิวเวลรี่อื่นๆ สินค้ากลุ่มไฮมาร์จิ้น เนื่องจากสินค้าในกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง พร้อมมองหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เสริมความแข็งแกร่ง ด้วยเป้าหมาย “ส่งมอบของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า” ในรูปของการร่วมทุนจัดตั้งบริษัทใหม่ ซึ่งมีการเจรจาอยู่ 4-5 ราย เพื่อร่วมกันทำขยายตลาด จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินและเพิ่มอัตรากำไร

“เพื่อก้าวสู่การเป็น “ผู้นำธุรกิจร้านทองของประเทศไทย” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นแผนที่สนุก ตื่นเต้น และมีโอกาสเป็นไปตามแผน เพราะก่อนจะทำแผนนี้ เราเตรียมทีมพร้อม ทั้งคน และมีการนำ เอไอ เข้ามาช่วยเรื่องการตรวจทอง มีระบบพร้อม และทุนพร้อม”นายอนิพัทย์ กล่าว

นายอนิพัทย์ กล่าวว่า ธุรกิจ Gold Jewelry Business จะขยายสาขาเป็น 1,070 แห่งในปี 2570 จากปัจจุบัน 488 สาขา โดยปี 2568 นี้จะเพิ่มเป็น 644 สาขา จะใช้เงินลงทุนประมาณ 200-250 ล้านบาทใน 3 ปี

ธุรกิจ Gold Financing Business เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจธุรกิจขายฝากทอง ภายใต้แบรนด์ทองมาเงินไป ให้เติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง ในปี 2567 มีบัญชีลูกหนี้ขายฝาก (AR balance) ณ สิ้นงวด ปี 2567 อยู่ที่ 4,881 ล้านบาท วางเป้าในปี 2568 อยู่ที่ 7,500 ล้านบาท สู่การเติบโต 20,000 ล้านบาท ภายในปี 2570 คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 10% ของตลาดขายฝากทอง

“ปัจจุบันเรามีสาขาของทองมาเงินไป 10 แห่ง จะเพิ่มเป็น 1,000 แห่งในปี 2570 โดยจะใช้เงินลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 3 แสนบาท โดยที่ผ่านมาลูกค้าที่มาขายฝากทองมีอัตราการไถ่ถอนคืนสูงถึง 98% เหลือทองที่จะนำไปหลอมเพื่อขึ้นรูปใหม่ไม่มาก”นายอนิพัทย์ กล่าว

นายอนิพัทย์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะลงทุนราว 40 ล้านบาทในปี 2569 เพื่อทำการหลอมทองเอง จะทำให้มีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น 1% ของราคาทองคำ จากปัจจุบันที่ส่งทองไปหลอมข้างนอกที่ต้องจ่ายค่าหลอม 1% ของราคาทองทำ

รับทองถึงบ้าน

นอกเหนือจากการให้บริการ ณ สาขา และ ระบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่นแล้ว เพื่อยกระดับประสบการณ์ในการรับบริการ จะทำการเพิ่มบริการถึงหน้าบ้าน (Delivery) ทั่วประเทศคาดว่าจะเริ่มได้ต้นไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยลูกค้าเพียงใช้บัตรประชาชน ลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่น พร้อมหลักฐานการซื้อทอง เพื่อทำการขายฝากทอง บริษัทฯจะไปรับถึงบ้าน

จ่อออกหุ้นกู้ 2 พันล.

ขณะที่ด้านเงินทุน มีการปรับโครงสร้างเสร็จแล้ว โดยได้เพิ่มสัดส่วนหนี้สินต่อทุนจาก 2 เท่า เป็น 2.5 เท่า สามารถกู้เงินได้ถึง 5,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3 ของปี 2568 จะมีการออกหุ้นกู้วงเงิน 2,000 ล้านบาทขายให้กับประชาชนทั่วไป อายุ 2 ปี ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะมีการประกาศอีกครั้ง เพื่อนำเงินมาขยายธุรกิจตามแผน 3 ปี