เปิดพอร์ต”กองทุน KT-HiDiv-D” ลงทุนหุ้นใหญ่ ปันผลดี โชว์ฟอร์มแกร่ง คว้ากองทุนยอดเยี่ยมปี 67

HoonSmart.com>> “กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ (ชนิดจ่ายเงินปันผล)” หรือ KT-HiDiv-D ควง “กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-HiDiV RMF)โชว์ฟอร์มแกร่ง คว้ารางวัล “กองทุนตราสารทุน หุ้นขนาดใหญ่-กองทุน RMF ยอดเยี่ยม” งาน Morningstar Awards ปี 2024 เปิดพอร์ตเน้นลงทุน “หุ้นไทย” ในตลาด SET ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ประวัติการจ่ายปันผลที่ดีสม่ำเสมอ หรือมีศักยภาพจ่ายเงินปันผลในอนาคต ฝ่าความผันผวนตลาด มองแนวโน้มหุ้นไทยปี 67 คาดให้ผลตอบแทนดีกว่าปีก่อน ชูหุ้นขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ กำไรสม่ำเสมอเป็นโอกาสในการลงทุน

“กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ (ชนิดจ่ายเงินปันผล)” หรือ KT-HiDiv-D ได้รับรางวัลกองทุนตราสารทุนยอดเยี่ยมปี 2024 ประเภทกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large Cap) พร้อมกับ “กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ KT-HiDiV RMF ที่รับรางวัลกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพยอดเยี่ยม ปี 2024 จาก Morningstar Awards for Investing Excellence 2024

กองทุน KT-HiDiv-D มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐาน ผลการดำเนินงานที่ดีและมีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดีสม่ำเสมอและมีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต โดยมีอัตราส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derevatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) แต่จะไม่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)

สำหรับพอร์ตการลงทุน 5 อันดับแรก (ข้อมูล ณ 29 ก.พ.2567) อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมทรัพยากร 22.38% ธุรกิจการเงิน 18.73% บริการ 13.57% เทคโนโลยี 13.46% อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 11.31%

ส่วนหุ้นในพอร์ต 5 อันดับแรก ลงทุนสูงสุดในหุ้น PTTEP สัดส่วน 8.08% ADVANC สัดส่วน 7.82% PTT สัดส่วน 7.61% INTUCH สัดส่วน 5.40% และ TTB สัดส่วน 4.24%


สำหรับมุมมองของบลจ.กรุงไทย ให้สัมภาษณ์ “มอร์นิ่งสตาร์” เกี่ยวกับกลยุทธ์การบริหารจัดการกองทุนและมุมมองการลงทุนในปี 2567

👉อะไรคือสิ่งที่ทำให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่ดีในปี 2566

การบริหารกองทุนแบบ Active และให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ลงลึกรายบริษัท (Bottom-up approach) โดยผู้จัดการกองทุนคัดเลือกหุ้นที่มีคุณภาพของกำไรที่ดี โดยให้ความสำคัญกับหุ้นที่จ่ายเงินปันผลที่ดีสม่ำเสมอ คัดเลือกหุ้นที่มีมูลค่าที่ดีที่มีราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงและเหมาะสมกับศักยภาพในการเติบโต โดยหลีกเลี่ยงการไล่ซื้อหุ้นที่ราคาได้สท้อนความคาดหวังที่สูงมาก ขณะเดียวกันผู้จัดการกองทุน มีการติดตามสถานการณ์ต่างๆและปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนหลักทรัพย์เมื่อสถานการณ์และข้อมูลของหลักทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ กลยุทธ์การบริหารกองทุนดังกล่าวช่วยให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่ดีในปีที่ผ่านมา

👉 วิธีรับมือกับการผันผวนของตลาดในปี 2566 อย่างไร

ในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง การคัดเลือกหุ้นเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งผู้จัดการกองทุนได้ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ติดตามและใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพและปริมาณจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายเพื่อทำการประเมินมูลค่าหุ้น และค้นหาหุ้นที่ราคาตลาดยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กองทุน และการวิเคราะห์เชิงลึกยังช่วยหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสพลาดเป้าประมาณการผลการดำเนินกิจการ

ทั้งนี้ การประเมินสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและทบทวนพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่องของผู้จัดการกองทุนจะทำให้สามารถปรับพอร์ตการลงทุนได้ทันต่อสถานการณ์ ช่วยลดความเสี่ยงที่กระทบต่อพอร์ตการลงทุน และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกัน การให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลการดำเนินงาน และความสามารถในการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอของบริษัท ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยรับมือกับการผันผวนของตลาดในปี 2566

👉อะไรคือจุดแข็งของทีมบริหารการลงทุนที่ทำให้กองทุนนี้ประสบความสำเร็จ

บลจ. กรุงไทย มีการร่วมกันทำงานแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่าง ทีมผู้จัดการกองทุน ทีมกลยุทธ์การลงทุน ทีมวิจัยภายใน บลจ. และ คณะกรรมการจัดการลงทุน โดยในทีมลงทุนมีการสื่อสารข้อมูลความคิดเห็นในทีมอย่างสม่ำเสมอ และใช้ความสามารถในการเลือกหุ้นที่ผู้จัดการกองทุนมีความเชี่ยวชาญในแต่ละสถานการณ์ตลาด เพื่อให้สามารถคัดสรรหุ้นและให้น้ำหนักลงทุนรายหุ้นสอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกัน ทีมลงทุนประกอบด้วยบุคคลากรที่มีประสบการณ์ในตลาดหุ้น มีการศึกษารายละเอียดและติดตามข้อมูลของหลักทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ และมีวินัยในการลงทุนตามแผนการ

พร้อมกันนั้น ทีมกลยุทธ์การลงทุนยังช่วยประเมินสถานการณ์ของแต่ละสินทรัพย์ในภาพ Top Down และ ทีมวิจัยภายใน บลจ. ช่วยสนับสนุนให้ข้อมูลรายหลักทรัพย์ในเชิงลึก ทำประมาณการผลการดำเนินงาน และให้คำแนะนำในลักษณะของการมองไปข้างหน้าเพื่อประเมินหามูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้น และมีคณะกรรมการจัดการลงทุนช่วยกลั่นกรองให้การลงทุนอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม

👉มุมมองเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและหุ้นไทยโดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ในปี 2567 อย่างไร

บลจ. กรุงไทยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะฟื้นตัวและเติบโตได้ดีขึ้นจากปี 2566 จากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง การบริโภคและการลงทุนจากมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ความคืบหน้าการลงทุนภาครัฐ และการส่งออกที่ฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของการค้าโลกจากกระแส Re-stocking ในขณะที่ดอกเบี้ยในประเทศหลักๆ รวมทั้งของไทย คาดว่าผ่านจุดสูงสุด และมีแนวโน้มที่จะปรับลงตามเงินเฟ้อที่จะค่อยๆปรับลดลง

ในส่วนของตลาดหุ้นไทยในปีนี้ แม้ว่าจะมีความกังวลจากเศรษฐกิจโลกชลอตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ปัญหาความตึงเครียดจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และการค้าที่ต่อเนื่อง และการชลอตัวของการบริโภคของไทยจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและการเติบโตที่ชลอลงของเศรษฐกิจจีน แต่ปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะมาจากความคืบหน้าโครงการลงทุนภาครัฐฯ หลังผ่านงบประมาณเบิกจ่ายฯ ปี 2567 และต่อเนื่องถึงงบประมาณปี 2568 ความชัดเจนของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ การเริ่มลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป คาดหนุนภาพเศรษฐกิจโดยรวมและสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ทำให้กระแสเงินลงทุนต่างชาติอาจไหลกลับหุ้นไทย ประกอบกับเมื่อพิจารณา Equity yield gap ของระดับดัชนีหุ้นไทย เทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะกลางของไทย อยู่ในระดับที่ไม่แพง

ดังนั้นคาดว่าการลงทุนในหุ้นไทยในปีนี้จะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าปีก่อน และการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพของผลกำไรที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ มีฐานะการเงินที่มั่นคงจะทำให้ได้รับผลตอบแทนสอดคล้องกับการปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยในปีนี้

👉คำแนะนำต่อนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนหุ้นขนาดใหญ่อย่างไรบ้าง

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนหุ้นขนาดใหญ่นั้น ทาง บลจ.กรุงไทยขอแนะนำกองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (KT-HiDiv-D) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีที่มี Valuation เหมาะสมกับศักยภาพในการเติบโต โดยจะคัดเลือกหุ้นที่มีคุณภาพของกำไรที่ดีที่สามารถจ่ายเงินปันผลสูง สม่ำเสมอ เป็น Core Portfolio และให้ความสำคัญกับสภาวะการลงทุนและแนวโน้มเศรษฐกิจ เพื่อคัดเลือกหุ้นที่จ่ายเงินปันผลและมีศักยภาพในการเติบโต เพื่อที่จะสามารถจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เป็น Satellite Portfolio สำหรับผสมในพอร์ตการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น แนวการลงทุนนี้จะช่วยสะสมให้ได้ผลตอบแทนที่ดี และมีความผันผวนที่น้อยกว่าความผันผวนของตลาดหุ้นในภาพรวม และสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยได้อย่างสม่ำเสมอ

สำหรับกองทุน “กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ” หรือ KT-HiDiV RMF นโยบายการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุน KT-HiDiV แต่ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล

พอร์ตการลงทุนอยู่ในหมวดอุตสาหกรรมสูงสุด 5 อันดับแรก (ข้อมูล ณ 29 ก.พ.2567) ได้แก่ ทรัพยากร สัดส่วน 22.39% ธุรกิจการเงิน 18.74% บริการ 13.53% เทคโนโลยี 13.26% และอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 11.52%

หุ้น 5 อันดับแรกที่ลงทุนสูงสุด ได้แก่ หุ้น PTTEP สัดส่วน 8.08% ADVANC สัดส่วน 7.84% PTT สัดส่วน 7.59% INTUCH สัดส่วน 5.18% และ TTB สัดส่วน 4.27%


สำหรับมุมมองของบลจ.กรุงไทย ให้สัมภาษณ์ “มอร์นิ่งสตาร์” เกี่ยวกับกลยุทธ์การบริหารจัดการกองทุน KT-HiDiV RMF

👉อะไรคือสิ่งที่ทำให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่ดีในปี 2566

การบริหารกองทุนแบบ Active และให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ลงลึกรายบริษัท (Bottom-up approach) โดยผู้จัดการกองทุนคัดเลือกหุ้นที่มีคุณภาพของกำไรที่ดี โดยให้ความสำคัญกับหุ้นที่จ่ายเงินปันผลที่ดีสม่ำเสมอ คัดเลือกหุ้นที่มีมูลค่าที่ดีที่มีราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงและเหมาะสมกับศักยภาพในการเติบโต โดยหลีกเลี่ยงการไล่ซื้อหุ้นที่ราคาได้สะท้อนความคาดหวังที่สูงมาก ขณะเดียวกันผู้จัดการกองทุน มีการติดตามสถานการณ์ต่างๆและปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนหลักทรัพย์เมื่อสถานการณ์และข้อมูลของหลักทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ กลยุทธ์การบริหารกองทุนดังกล่าวช่วยให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่ดีในปีที่ผ่านมา

👉วิธีรับมือกับการผันผวนของตลาดในปี 2566 อย่างไร

ในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง การคัดเลือกหุ้นเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งผู้จัดการกองทุนได้ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ติดตามและใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพและปริมาณจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายเพื่อทำการประเมินมูลค่าหุ้น และค้นหาหุ้นที่ราคาตลาดยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กองทุน และการวิเคราะห์เชิงลึกยังช่วยหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสพลาดเป้าประมาณการผลการดำเนินกิจการ ทั้งนี้การประเมินสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและทบทวนพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่องของผู้จัดการกองทุนจะทำให้สามารถปรับพอร์ตการลงทุนได้ทันต่อสถานการณ์ ช่วยลดความเสี่ยงที่กระทบต่อพอร์ตการลงทุน และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกัน การให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลการดำเนินงาน และความสามารถในการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอของบริษัท ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยรับมือกับการผันผวนของตลาดในปี 2566

👉มองเห็นโอกาสในการลงทุนสำหรับปี 2567 อย่างไรบ้าง

การลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปีนี้ แม้ว่าจะมีความกังวลจากเศรษฐกิจโลกชลอตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ปัญหาความตึงเครียดจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และการค้าที่ต่อเนื่อง และการชะลอตัวของการบริโภคของไทยจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แต่ปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะมาจากความคืบหน้าโครงการลงทุนภาครัฐฯ หลังผ่านงบประมาณเบิกจ่ายฯ ปี 67 และต่อเนื่องถึงงบประมาณปี 68 ความชัดเจนของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ การเริ่มลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป คาดหนุนภาพเศรษฐกิจโดยรวม และสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ทำให้กระแสเงินลงทุนต่างชาติอาจไหลกลับหุ้นไทย ประกอบกับเมื่อพิจารณา Equity yield gap ของระดับดัชนีหุ้นไทย เทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะกลางของไทย อยู่ในระดับที่ไม่แพง

ดังนั้นคาดว่าการลงทุนในหุ้นไทยในปีนี้จะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพของผลกำไรที่ดี มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลที่สูงสม่ำเสมอ จะทยอยสร้างกระแสรายได้สะสมในการลงทุน ถือเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดีสำหรับปี 2567 ภายใต้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

👉ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้กองทุนนี้แตกต่างจากกองทุนหุ้นอื่นๆ

การเน้นคัดกรองและจัดสรรน้ำหนักลงทุนที่สูงในหุ้นที่ไม่เพียงแต่จ่ายเงินปันผลสูงสม่ำเสมอ แต่จะต้องมี Valuation ที่เหมาะสมกับศักยภาพ จะช่วยให้กองทุนได้รับกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอสะสมในกองทุนและช่วยจำกัด downside risks ผสมกับการคัดสรรหุ้นที่จ่ายเงินปันผลที่มีศักยภาพในการเติบโต เพื่อที่จะสามารถจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นในอนาคต จะช่วยให้ได้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันกองทุนพร้อมที่จะลดน้ำหนักและปรับเปลี่ยนหลักทรัพย์ เมื่อการวิเคราะห์ผลประกอบการของหลักทรัพย์นั้นมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะนำไปสู่การลดลงของอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลได้ ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวทำให้กองทุนนี้แตกต่างจากกองทุนหุ้นอื่นๆ

👉คำแนะนำต่อนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนหุ้นเพื่อการเกษียณอายุอย่างไรบ้าง

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนหุ้นเพื่อการเกษียณอายุนั้น ทาง บลจ กรุงไทยขอแนะนำ กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-HiDiV RMF) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีที่มี Valuation เหมาะสมกับศักยภาพในการเติบโต โดยจะคัดเลือกหุ้นที่มีคุณภาพของกำไรที่ดีที่สามารถจ่ายเงินปันผลสูง สม่ำเสมอ เป็น Core Portfolio และให้ความสำคัญกับสภาวะการลงทุนและแนวโน้มเศรษฐกิจ เพื่อคัดเลือกหุ้นที่จ่ายเงินปันผล มีศักยภาพในการเติบโต เพื่อที่จะสามารถจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นในอนาคต (Satellite Portfolio) สำหรับผสมในพอร์ตการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น แนวการลงทุนนี้จะช่วยสะสมให้ได้ผลตอบแทนที่ดี และมีความผันผวนที่น้อยกว่าความผันผวนของตลาดหุ้นในภาพรวม ซึ่งเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาวเพื่อการเกษียณอายุ