HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นทำนิวไฮทั้งสามดัชนี โดยดาวโจนส์ +269.24 จุด, ดัชนี S&P +16.91 จุด และ Nasdaq +32.43 จุด ยังขานรับเฟดตรึงดอกเบี้ย-แนวโน้มลดดอกเบี้ยในปี 67 ฟากตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินของหลายธนาคารกลาง ด้านราคาน้ำมันอ่อนตัวลง ทั้ง WTI และ Brent
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average : DJIA) วันที่ 21 มี.ค.67 ปิดที่ 39,781.37 จุด เพิ่มขึ้น 269.24 จุด หรือ +0.68% นักลงทุนยังคงขานรับการตรึงอัตราดอกเบี้ย และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 67 ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,241.53 จุด เพิ่มขึ้น 16.91 จุด, +0.32%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,401.84 จุด เพิ่มขึ้น 32.43 จุด, +0.20%
แรงซื้อจากนักลงทุนส่งผลให้หุ้นปรับตัวสูงขึ้น หลังเฟดย้ำการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปี 67 แม้ค่ามัธยฐานของการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายใน dot plot ของเฟดจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
แม้เฟดไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันพุธ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะผ่อนคลายลง ตราบใดที่ข้อมูลเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มลดลง
เจย์ วูดส์ หัวหน้านักกลยุทธ์ระดับโลกของ Freedom Capital Markets กล่าวว่า นักลงทุนเชื่อมั่นในเฟด กับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะเกิดขึ้น อีกทั้งตลาดเชื่อว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวได้อย่างราบรื่น และไม่ว่าเฟดจะพูดอะไรยังคงเป็นข่าวดีของตลาด
หุ้น Micron Technology เพิ่มขึ้น 14% จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและเป็นการปรับขึ้นที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2011 และยังส่งผลให้เซมิคอนดักเตอร์ปรับขึ้นด้วย โดย หุ้น Nvidiaและหุ้น Marvell Technologyต่าง เพิ่ม 1% หุ้น Taiwan Semiconductor เพิ่มขึ้นประมาณ 2% และหุ้น Broadcom เพิ่มขึ้น 5.6%
หุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ที่นำการพุ่งขึ้นครั้งล่าสุดก็มีส่วนทำให้ตลาดปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหุ้น ไมโครซอฟต์ เพิ่มขึ้นเกือบ 1% หุ้นReddit บริษัทโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นกว่า 48% ในการเข้าเทรดในตลาดหุ้นนิวยอร์กวันแรก แต่หุ้นแอปเปิลถ่วงการปรับขึ้นลดลง 4.1% หลังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐยื่นฟ้องบริษัทในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาด
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมก็ปรับขึ้นเช่นกันและหนุนในกลุ่ม S&P ขึ้นราว 1% โดยหุ้น Stanley Black & Decker หุ้น Pentair และหุ้น Rockwell Automation ต่างเพิ่มขึ้นประมาณ 3% ต่อคน
จูลี เบียล จาก Kayne Anderson Rudnick เตือนว่า ตลาดอาจจะตอบสนองมากเกินไปต่อโอกาสที่จะมีการลดดอกเบี้ยสามครั้งในปีนี้ และต้องตระหนักว่าไม่ใช่อยู่จะลดดอกเบี้ย 3 หรือ 4 ครั้งเลย แต่ยังคงมีโอกาสที่จะกระจายไปหลังจากปี 67-68
ในเช้าวันพฤหัสบดี เทรดเดอร์ให้น้ำหนัก 67% ที่เฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ตามเครื่องมือ FedWatch ของกลุ่ม CME
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่รายงานเมื่อวานนี้ได้แก่ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว จากกระทรวงแรงงานที่ลดลง 2,000 ราย มาที่ 210,000 ราย และต่ำกว่า 212,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ(NAR) รายงาน ยอดขายบ้านมือสองเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบรายเดือน มาที่ 4.38 ล้านยูนิต ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาที่ 3.95 ล้านยูนิต
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ตามตลาดหุ้นทั่วโลกและแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นำโดยหุ้นเทคโนโลยีและเหมืองแร่ จากสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินจากธนาคารกลางประเทศใหญ่หลายแห่ง หนุนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำการปรับขึ้นบวก 3.2% เนื่องจากนักลงทุนหันมาสนใจสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ยังคงมุมมองการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปีนี้
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ของยุโรปรวมถึง หุ้นใหญ่อย่าง ASML Holding หลังคาดการณ์รายรับไตรมาสสามที่แข็งแกร่งของ Micron Technology ผู้ผลิตชิปในสหรัฐ
ดัชนีกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานที่มีหุ้นเหมืองแร่ เพิ่มขึ้น 2.6% เนื่องจากราคาโลหะส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น โดยราคาทองคำแตะระดับ all-time high ในช่วงเช้าของการซื้อขาย
ดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษปรับขึ้นมากกว่าดัชนีอื่นในภูมิภาคโดยพุ่งขึ้นเกือบ 2% หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ย และผู้ว่าการธนาคารกลาง นายแอนดรูว์ เบลีย์กล่าวว่า เศรษฐกิจของอังกฤษกำลัง เคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้องที่จะทำให้ธนาคารกลางเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสวิสได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 1.50% ทำให้กลายเป็นธนาคารกลางรายใหญ่แห่งแรกที่ผ่อนคลายนโยบายการเงินที่เข้มงวด
นักลงทุนยังได้ปรับมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยมองว่ามีโอกาส 90% ที่ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนมิถุนายน จากที่น้อยกว่า 80% ในช่วงปลายของวันพุธ
ในด้านข้อมูล กิจกรรมทางธุรกิจของฝรั่งเศสหดตัวเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันในเดือนมีนาคม ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของเยอรมนีดีขึ้นเล็กน้อย
กิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 49.9 ในเดือนนี้จากระดับ 49.2 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งใกล้เคียงกับการกลับมาเติบโตอีกครั้ง เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลง
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 509.77 จุด เพิ่มขึ้น 4.56 จุด, +0.90% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,882.55 จุด เพิ่มขึ้น 145.17 จุด,+1.88%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ ที่ 8,179.72 จุด เพิ่มขึ้น 18.31 จุด, +0.22%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,179.25 จุด เพิ่มขึ้น 164.12 จุด, +0.91%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 81.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 85.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล