“คิงส์ฟอร์ด” คาด SET ทรงตัว รอเฟดคืนนี้ แนะ GULF-ADVANC

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,375 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,390 – 1,395 จุด ระหว่างรอผลการประชุม FED ว่าจะยืนยันการเริ่มลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. หรือไม่ ด้านบิทคอยน์ร่วงกว่า 5.46% แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC กลุ่มอาหาร CPF,GFPT เก็งกำไรโรงกลั่น BSRC หุ้นวันนี้ แนะ GULF, ADVANC

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,375 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,390 – 1,395 จุด ระหว่างรอผลการประชุม FED ว่าจะยืนยันการเริ่มลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. หรือไม่ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC กลุ่มอาหาร CPF,GFPT เก็งกำไรโรงกลั่น BSRC

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.83%, S&P500 +0.56%, Nasdaq +0.39% ได้แรงหนุนจาก Nvidia +1% หลังเปิดตัวชิปใหม่ และกลุ่มพลังงาน +1.1% ตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่กลุ่มบริการสื่อสาร -0.2% และแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ ปรับลดลงตาม Bitcoin

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ตัวเลขเริ่มสร้างบ้าน ก.พ. +10.7% MoM และการขออนุญาตก่อสร้างบ้าน +1.9% MoM ซึ่งดีกว่าคาด

ค่ำวันนี้ติดตามผลการประชุมเฟด โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 55.6% ที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. รวมถึง Fed Dot Plot ว่าจะเปลี่ยนคาดการณ์ดอกเบี้ยสหรัฐปลายปีนี้จะปรับลดลงสู่ระดับ 4.625% หรือไม่

ด้านราคา WTI เม.ย. เพิ่มขึ้น 0.75 ดอลลาร์ อยู่ที่ 83.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน Brent พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.49 ดอลลาร์ อยู่ที่ 87.38 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังโรงกลั่นน้ำมันรัสเซียอย่างน้อย 7 แห่งถูกโดรนของยูเครนโจมตีในช่วงเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้กำลังการผลิตของรัสเซียลดลง 370,500 บาร์เรล/วัน หรือคิดเป็น 7% ของกำลังการกลั่นทั้งหมด ขณะที่ API เผยสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 1.5 ล.บาร์เรล

ทองคำ Comex Gold เม.ย.ลดลง 4.60 อยู่ที่ 2,159.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ทรงตัวรอผลการประชุมเฟดในช่วงค่ำวันนี้ ขณะที่ Dollar Index +0.24% อยู่ที่ 103.839

ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 36.05 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.293 %

ดัชนี BDI วานนี้ -27 จุด อยู่ที่ 2,392

BitCoin เช้านี้ -5.46% อยู่ที่ 62,241 ดอลลาร์สหรัฐ

ธนาคารกลางจีนคง LPR 1 ปี ที่ 3.45% และ 5 ปี ที่ 3.95%

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ GULF (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 56.75 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 4Q66 ที่ 4.8 พันล้านบาท +42%QoQ จากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่กำไรปกติทรงตัว QoQ เนื่องจากรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า IPP ที่เพิ่ง COD ชดเชยยอดขายไฟฟ้าให้ภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรของ INTUCH เข้ามาช่วย รวมทั้งปี 66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1.48 หมื่นล้านบาท +30%YoY

ส่วนแนวโน้ม 1Q67 คาดกำไรปกติปรับขึ้นตามปริมาณการขายไฟฟ้าหลังผ่าน low season ของการเรียกรับซื้อไฟฟ้ากลุ่ม IPP อีกทั้งจะมีการ COD โรงไฟฟ้า GULF PD Unit ที่เหลือเพิ่มช่วงปลายไตรมาส ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67 ที่ 1.89 ล้านบาท +28%YoY เป็นผลจากการรับรู้โครงการที่เริ่ม COD จากปี 66 เข้ามาเต็มปี และเริ่มทยอยรับรู้โครงการที่จะ COD ในปี 67 เข้ามาราว 1,600 MWe นอกจากนี้คาดมาร์จิ้นของโรงไฟฟ้า SPP จะฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง YoY

หุ้น ADVANC (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมายปี 67 257.00 บาท) กำไรสุทธิงวด 4Q66 อยู่ที่ 7,003ล้านบาท , -14%QoQ, -5%YoY หดตัวจาก YoY การตั้งสำรองด้อยค่า แต่หากดูเฉพาะฝั้งรายได้จะ +YoY +QoQ ได้ดี หนุนด้วย ARPU ที่สูงขึ้น สำหรับแนวโน้มภาพระยะสั้น เราประเมินผลประกอบการ 1Q67 ทรงตัวจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจาก TTTB/JASIF

อย่างไรก็ตาม ภาพระยะกลาง-ยาว ยังมีปัจจัยบวกจาก 1.รายได้ฝั่งธุรกิจ Fixed Broadband ที่ยังมีโมเมนตัมที่ดีและฐานลูกค้าที่เพิ่มมาจาก TTTBB 2.Blended ARPU ที่สูงขึ้นจาก User ที่ migrate package มาเป็น 5G 3.การแข่งขันที่ลดลงในอุตฯหลังผ่านช่วงควบรวม คาดจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายการตลาดลดลงอย่างมีนัยยะ