HoonSmart.com>>กัลฟ์ฯรุกดิจิทัลไฟแนนซ์ ผนึกไบแนนซ์ ขึ้นที่ 1 ตลาดคริปโตไทย จับมือ กรุงไทย-เอไอเอส ตั้งธนาคารไร้สาขาปล่อยกู้ไร้หลักประกัน ด้านไบแนนซ์เผย 7 มุมมองตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า ด้วยวิถีชีวิตในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนจะใช้ชีวิตบนดิจิทัลมากขึ้นผ่านโทรศัพท์มือถือ มี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตมากขึ้น และข้อมูลต่างๆ จะอยู่บนระบบคลาวด์ เรื่องการเงิน การลงทุน ก็จะเป็นดิจิทัลมากขึ้น ระบบโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีจึงต้องมีความปลอดภัย ซึ่งทางบริษัทได้ร่วมกับบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส สร้างศูนย์จัดเก็บข้อมูล หรือ Data Center ซึ่งเป็น Infrastructure Digital โดยจะเสร็จภายในปีหน้า เพื่อรองรับธุรกิจที่จะขยายไปได้อย่างต่อเนื่องตามความต้องการ การใช้ดิจิทัลของประเทศ
“ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ต้องมีความเสถียร มีความโปร่งใส มีความปลอดภัย สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่มาซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้มากู้และฝากเงินดิจิทัล ให้สามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง”นายสารัชถ์ กล่าว
ปั้น “กัลฟ์ ไบแนนซ์”ยืน 1 ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
นายสารัชถ์ กล่าวว่า ด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ร่วมกับบริษัทไบแนนซ์ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัลจริงๆเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ด้วยการจัดตั้งบริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ ในการทำธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีความตั้งใจที่จะขึ้นเป็นที่ 1 ในธุรกิจดังกล่าวในไทย
“ระบบบล็อกเชนของไบแนนซ์ เป็นที่ยอมรับระดับโลกว่ามีความเสถียร มีความมั่นคง มีความปลอดภัย และมีเงินทุนรองรับ แพลตฟอร์มด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของเขาเป็นที่ 1 ของโลกและมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการทำธุรกิจ ซึ่งบริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ เกิดมาในช่วงที่กฎระเบียบของทางการทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) รวมถึงเรื่องการป้องกันการฟอกเงิน ที่เข้มงวดมาก ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่ามาทำธุรกรรมกับเราสินทรัพย์เขาจะปลอดภัย”นายสารัชถ์ กล่าว
นายสารัชถ์ กล่าวว่า สำหรับการลงทุนในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ ได้มีการซื้อ BNB Coin หรือ เหรียญ ไบแนนซ์ ไว้ค่อนข้างมาก เพราะไบแนนซ์เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดี และยังรู้จักผู้บริหารไบแนนซ์มานานแล้ว รวมถึงลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับคริปโตบ้าง
ตั้ง Virtual Bank รับเทรนด์ Money Digital
บริษัทยังสนใจทำธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือ Virtual Bank โดยร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย และ เอไอเอส ในการจัดตั้ง Virtual Bank ทุนจดทะเบียน 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการยื่นขอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป คาดหวังที่จะเปิดให้บริการได้ภายในปลายปีนี้ แต่เรื่องสัดส่วนการถือหุ้นกำลังหารือกันอยู่ โดยจะให้บริการปล่อยสินเชื่อผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทั้ง 2 บริษัทถือเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งคู่ โดยธนาคารกรุงไทย จะเป็นผู้รู้ด้านกระบวนการทางด้านการเงิน ขณะที่เอไอเอส จะมีฐานลูกค้าโทรศัพท์ สามารถร่วมกันพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ และความสามารถกู้เงินผ่านโทรศัพท์มือถือได้ เพราะในอนาคตธุรกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันของผู้คนจะอยู่บนโทรศัพท์มือถือ
“Virtual Bank จะทำให้ผู้คนที่ไม่มีหลักประกัน เข้าถึงเงินกู้หลัก 3 หมื่น ถึง 2 แสนบาทได้มากขึ้น โดยไม่ต้องมีที่ดิน มีบ้าน หรือ มีรถ มาวาง เราจะใช้ข้อมูลของมือถือ กับข้อมํลแบงกฺ ทำการเช็คกันว่า ลูกค้าสามารถ กู้ได้แค่ไหน”นายสารัชถ์ กล่าว
นายสารัชถ์ กล่าวว่า ลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา จะเริ่มจากฐานลูกค้าของกลุ่มผู้ถือหุ้น ทั้งธนาคารกรุงไทย และเอไอเอส โดยพิจารณา จากพฤติกรรมการใช้มือถือว่ามีความสามารถในการชำระหนี้
7 มุมมองตลาดคริปโตไทยในสายตาไบแนนซ์
นายริชาร์ด เทง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Binance กล่าวว่า 1.หลังจากการเปิดตัว ไบแนนซ์ ทีเอช บาย กัลฟ์ ไบแนนซ์ (Binance TH by Gulf Binance) อย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เป้าหมายหลักของ กัลฟ์ ไบแนนซ์ คือการขึ้นเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศด้วยการให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน การพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยของการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
2.ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยประเทศไทยมีอัตราการยอมรับให้เกิดการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลมากถึง 10% รวมถึงคนไทยมีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว และรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการดำเนินธุรกิจ ทำให้ไทยมีข้อได้เปรียบและมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างและเข้าไปมีส่วนร่วมในคอมมูนิตีเพื่อต่อยอดความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์อันหลากหลายของสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน
3. กัลฟ์ ไบแนนซ์ ส่งเสริมการเติบโตของคอมมูนิตีสินทรัพย์ดิจิตัลในประเทศไทยอย่างจริงจัง ผ่านการให้ข้อมูลและการเพิ่มทักษะการใช้งานคริปโต เพื่อเตรียมสังคมให้พร้อมสำหรับนวัตกรรมเทคโนโลยีบล็อกเชนแห่งอนาคต
4. การจับมือกับบริษัท กัลฟ์ อินโนวา ถือเป็นการร่วมมือที่สำคัญ เนื่องจาก กัลฟ์ เป็นหนึ่งในบริษัทยักษใหญ่ของประเทศไทย และที่สำคัญยังมีวิสัยทัศน์ในการลงทุนและมีความพร้อมด้านบล็อกเชนและเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงมีบริการของ AIS อีกด้วย
5. การเติบโตของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล 5 ปีจากนี้ จะรวดเร็วยิ่งกว่า 5 ปี ที่ผ่านมา
6. ไบแนนซ์ (Binance) มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบและเข้าใจถึงกรอบกฎหมายของแต่ละประเทศที่ดำเนินธุรกิจอยู่ บริษัทมีการติดต่อและร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานบังคับกฎหมายในระดับโลก และมีการตรวจสอบนโยบายของบริษัทอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายในทุกประเทศที่ให้บริการ อีกทั้งศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละประเทศเพื่อมอบบริการที่ดีที่สุด
7.ความท้าทายในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศ กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ และความรู้ความเข้าใจเป็นความท้าทายที่สำคัญ แต่ก็ได้เห็นการพัฒนาในส่วนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างในยุโรปและตะวันออกกลาง ที่ไบแนนซ์ได้รับใบอนุญาตในหลายๆ ประเทศแล้ว