HoonSmart.com>> ลุ้นระทึก หุ้นไทยเปิดวันแรกรอดเซอร์กิตเบรกเกอร์ ดัชนีปิดร่วง-4.50% ดีกว่าหลายตลาด อินโดนีเซียดิ่งกว่า 9% ต้องหยุดซื้อขายชั่วคราว ได้อานิสงส์หลายตลาดเอเชียบวก “อัสสเดช”ผู้จัดการตลท. พอใจมาตรการลดซิลลิ่ง-ฟลอร์หุ้นเหลือ 15% ห้ามชอร์ตเซล รมว.คลัง พร้อมยกเลิกห้ามชอร์ตเซลชั่วคราวก่อนกำหนด หากตลาดดีขึ้นเร็ว นักลงทุนช่วยกันงัด DELTA จากดิ่งเหวปิดบวก ปตท. เดินหน้าซื้อหุ้นคืน หนุนมาร์เก็ตแคปยืนหนึ่ง 864,031 ล้านบาท 3 โบรกฯหั่นเป้าหุ้นปี 68
วันที่ 8 เม.ย. 2568 ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการหลังจากหยุดวันจันทร์ ดัชนีร่วงแรงอย่างที่คาดการณ์ ระหว่างวันลงลึกที่สุด 1,056.41 จุด ดิ่งลง 68.8 หรือ -6.11% ก่อนฟื้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,074.59 จุด ลดลง 50.62 จุด หรือ -4.50% มูลค่าซื้อขาย 66,714.48 ล้านบาท โดยสถาบันไทยขายหนักที่สุด 4,768.78 ล้านบาท แซงหน้าต่างชาติขายสุทธิ 2,475.94 ล้านบาท ด้านนักลงทุนไทยซื้อเก็บ 7,341.02 ล้านบาท ส่วนค่าเงินบาทปิด 34.80/82 อ่อนค่าสุดรอบ 5 เดือนสอดคล้องภูมิภาค
ในวันเดียวกันตลาดหุ้นอินโดนีเซียดิ่งกว่า 9.19% ไปที่ 5,914.29 จุดในช่วงเช้า ทำให้ต้องหยุดการซื้อขายเป็นเวลา 30 นาที และเงินรูเปียะฮ์ร่วงลง 1.8% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนไทยได้มาตรการลดซิลลิ่งและฟลอร์เหลือ 15% ห้ามชอร์ตเซล และได้อานิสงส์ตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งพลิกกลับมาปรับตัวขึ้นแรง เช่น ญี่ปุ่นปิดพุ่งขึ้น 6.03% ตลาดหุ้นสหรัฐล่วงหน้าทั้งสามแห่งก็เพิ่มขึ้น ดาวโจนส์บวก 2%
ขณะเดียวกัน หุ้นขนาดใหญ่ของไทยก็มีแรงซื้อกลับ เช่น DELTA ที่เคยมีมาร์เก็ตแคปสูงที่สุด เมื่อได้รับผลกระทบจาก”ทรัมป” จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของไทย อัตราสูงถึง 36% ราคาร่วงแรงอย่างต่อเนื่อง วันนี้ลงไปต่ำสุดที่ 51.25 บาท ก่อนมีแรงไล่ขึ้นไปสูงสุดที่ 60.25 บาท และปิดที่ 59.50 บาท เพิ่มขึ้น +2.75 บาทหรือ +4.8%รวมถึงแรงขายหุ้นบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ปิดที่ 40 บาท ร่วงลง 11% ส่วนบริษัทปตท.(PTT) เดินหน้าซื้อหุ้นคืน 8 เม.ย. 2568 จำนวน 16.3 ล้านหุ้น ช่วงราคา 30- 30.25 บาท มูลค่า 492 ล้านบาท ปัจจุบันซื้อหุ้นคืนแล้วจำนวน 133.86 ล้านหุ้น 0.47% ของทุนเรียกชำระแล้ว มูลค่ารวม 4,271.97 ล้านบาท หนุนราคาปิดที่ 30.25 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ -3.97% คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) 864,031 ล้านบาท สูงที่สุดในตลาดหุ้นไทย
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยตกหนักวันนี้ แต่เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วยังต่ำกว่าบางประเทศ เนื่องจากหุ้นไทยตกมาระดับหนึ่งพอสมควรด้วยหลายสาเหตุ รับรู้ปัจจัยต่าง ๆ ไปแล้ว นอกจากนี้เงินที่ขายหุ้น ส่วนใหญ่โยกเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล โดยเฉพาะพันธบัตรสหรัฐ ทำให้ยีลด์ปรับลง กองทุนมีกำไรก็จะหาจังหวะกลับเข้ามาซื้อหุ้น รวมถึงเงินที่ขายหุ้นก็จะซื้อคืน เมื่อสถานการณ์พลิกกลับก็จะเป็นจังหวะของการซื้อคืน
สำหรับมาตรการชั่วคราว คือห้ามชอร์ดเซล เป็นการตัดสินด้วยความกล้าหาญเมื่อวานนี้ (7 เม.ย.) ปกติชอร์ตเซลล์เป็นเครื่องมือการป้องกันความเสี่ยงของบริษัทที่ลงทุนตามมาตรฐาน แต่เมื่อวานนี้คาดว่าหุ้นโลกจะลง เห็นจากทุกตลาดในเอเชียร่วงระเนระนาดกันถึง 5-6% เกรงว่าเปิดตลาดวันนี้คนอยากขายก่อนแล้วค่อยกลับมาซื้อ ถ้าไม่ห้ามชอร์ตก็ไม่ได้ จึงต้องตัดสินใจจากการคาดเดาสถานการณ์ พร้อมยกเลิกการห้ามชอร์ตเซลล์ จากการพิจารณาข้อมูลกันทุกวัน อย่าตกใจพื้นฐานยังดีอยู่
ทางด้านนายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่ามาตรการที่ประกาศใช้เมื่อวานนี้ คิดว่าช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดทุนไทยได้ในระดับหนึ่ง ลดลง 4.50% ซึ่งน้อยกว่าหลายตลาดในภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการปรับตัวในวันก่อนหน้า (7 เม.ย.) อย่างไรก็ตาม ความผันผวนและความไม่แน่นอนจะยังคงมีอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้ผู้ลงทุนติดตามข่าวสารและพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน”
น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ร่วงแรงจนดัชนีฯลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี แรงกดดันจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้หุ้นร่วงเกือบทั้งตลาด แม้ตลาดหลักทรัพย์จะปรับเกณฑ์ซิลลิ่งฟลอร์และห้ามชอร์ตเซล ในช่วงวันที่ 8-11 เม.ย.นี้ รวมถึงบอกว่าอาจยกเลิกก่อนเวลาถ้าสถานการณ์ดีขึ้น
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวลงไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยทาง”โกลด์แมนแซคส์”คาดว่าราคาน้ำมันอาจปรับตัวลงไปแถว 40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ปรับตัวขึ้นได้ เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่รีบาวด์ขึ้น พร้อมให้ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐในวันที่ 10 เม.ย.นี้
“ช่วงนี้เลือกเล่นหุ้นในกลุ่ม Defensive และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะดัว เช่น กลุ่มสื่อสาร TRUE, ADVANC และกลุ่มโรงพยาบาลบางตัว ซึ่งบ่ายนี้หุ้น DELTA มีรีบาวด์ทำให้ไปช่วย SET ลดช่วงลบได้บ้าง แต่สัปดาห์หน้าหยุดยาวช่วงสงกรานต์จะต้องระวังด้วย”
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.) ตลาดคงจะแกว่งตัวอิงลบอยู่ โดยมีแนวรับ 1,050-1,025 จุด แนวต้าน 1,085 จุด
ด้านนักวิเคราะห์จาก 3 โบรกเกอร์ดาหน้าหั่นเป้า GDP และดัชนี SET ปี 2568 บล.หยวนต้าฯมอง 3 กรณี แย่สุด ปานกลางถึงดีสุด 1150-1275-1380 จุด บล.กรุงศรีลดเป้าเหลือ 1418 จุด บล.ธนชาต 1,220 จุด พร้อมเชียร์ BDMS, CPALL, MINT, KBANK, MTC, LH, ADVANC, BCH, BTS, JMT, ERW, AMATA, 3BBIF, CKP, PR9, TRUE
———————————————————————————————————————————————————–