HoonSmart.com>>”ซีไอเอ็มบี ไทย” ( CIMBT ) เดินหน้ายุทธศาสตร์ ‘ธนาคารอาเซียนขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล’ โฟกัส 4 จุดแข็ง ASEAN, Digitalization, Wealth & Consumer Finance Solutions และ Sustainability ปีนี้สินเชื่อเพื่อนบ้านขยายตัว 10% หนุนสินเชื่อรวมโต 5% ทยอยลดกลุ่ม SME จากสัดส่วน 2.5% เหลือ 1% เพิ่มอุปโภคบริโภค พอร์ตยานยนต์ คุม NPLs ต่ำกว่าระดับ 3.5% รักษาตำแหน่งผู้นำตลาดค้าตราสารหนี้-บริหารความมั่งคั่ง
นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ( CIMBT ) นำทีมผู้บริหารแถลงยุทธศาสตร์ปี 2567 ว่า CIMBT ยังคงมุ่งมั่นชูวิสัยทัศน์ในการเป็น ‘Digital-led Bank with ASEAN Reach’ ‘ธนาคารอาเซียนขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล’ โดยอาศัยเครือข่ายความแข็งแกร่งในฐานะกลุ่มการเงินชั้นนำระดับภูมิภาคของ CIMB Group ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในประเทศไทย ด้วยจุดแข็งของซีไอเอ็มบี ไทย ได้แก่ ASEAN, Digitalization, Wealth & ผลิตภัณฑ์การเงินเพื่อลูกค้ารายย่อย และความยั่งยืน( Sustainability)
” ปี 2567 เรายังคงโฟกัสอาเซียนเป็นหลัก ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อโต 10% สนับสนุนให้สินเชื่อรวมเติบโต 5% มากกว่าปีก่อนที่ขยายตัว 4.1% ทำให้มีมียอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 244,990 ล้านบาท ขณะที่มีการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ให้อยู่ในกรอบเฉลี่ยไม่เกิน 3.3-3.5% จากปี 2566 ที่อยู่ระดับ 3.3% และมีการตั้งสำรองใกล้เคียงกับปีก่อนที่ตั้งสูงเป็น 3,110 ล้านบาทจากปี 2565 ตั้งสำรองจำนวน 2,094 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงจาก 2,911 ล้านบาทเหลือ 1,605 ล้านบาท และ ROE ลดลงจาก 6.5% เป็น 3.5% โดยมีสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากสูงเป็นประวัติการณ์ เป็น 124.2% เพิ่มขึ้นจากระดับ 114.6% ในปี 2565″
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จะเติบโตอย่างมีคุณภาพ จะทยอยลดสินเชื่อ SME ที่มีอยู่ 2 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนคิดเป็นสัดส่วน 2.5% ของสินเชื่อรวม คาดว่าภายใน 3-4 ปี จะลดลงต่ำกว่า 1% เพื่อหันไปเน้นขยายลูกค้าธุรกิจในอาเซียน สินเชื่ออุปโภคส่วนบุคคล รายย่อยผ่านช่องทางดิจิทัล จากการขยายสินเชื่อยานยนต์ คิดเป็นสัดส่วน 30% ของสินเชื่อรายย่อยรวมอยู่ที่ 165,000 ล้านบาท
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 ได้เปิดตัว “One Auto Platform” บริการสินเชื่อยานยนต์ ครอบคลุมทั้งรถยนต์ และ จักรยานยนต์ ผ่าน บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ ในเครือของธนาคาร ที่จะยกระดับความสามารถในการแข่งขันกับตลาด และเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจผ่านบริการใหม่ ได้แก่ สินเชื่อจำนำทะเบียนทั้งแบบโอนเล่ม และไม่ต้องโอนเล่ม ปัจจุบันมีสินเชื่อประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังมีโอกาสเติบโต โดยเลือกลูกค้าที่มีรายได้ประมาณ 3-5 หมื่นบาท/เดือน
ส่วนสินเชื่อรายใหญ่นั้น คาดว่าจะยังคงมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยเครือข่ายความแข็งแกร่งในฐานะกลุ่มการเงินชั้นนำระดับภูมิภาคของ CIMB Group เข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถในการโฟกัสตลาดในอาเซียน
นอกจากนี้ธนาคารยังนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อน และยกระดับการให้บริการในโลกยุคใหม่ ผ่านแอพลิเคชั่น CIMB THAI Digital Banking ที่ส่งผลให้ธุรกรรมเติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถขยายฐานบัญชีดิจิทัลเพิ่มเป็น 400,000 ราย ปริมาณธุรกรรมบนแอปที่ทะยานสู่ 90% และ ธุรกรรมจองซื้อหุ้นกู้และ พันธบัตรทั้งตลาดแรก และ ตลาดรองทะยานเกิน 66,000 ล้านบาท ทำให้ธนาคารยังตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำตลาดค้าตราสารหนี้ และที่หนึ่งในใจลูกค้าบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management)
ในปี 2567 ท่ามกลางสภาวะตลาดตราสารหนี้ที่มีความท้าทาย เช่น อัตราดอกเบี้ยลดลง ธนาคารให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารความเสี่ยงจากการเสนอขายหุ้นกู้ที่มีเรทติ้งระดับอินเวสเม้นท์เกรด และการคัดเลือกสินค้ามีมาตรฐานที่ใช้ภายในกลุ่มซีไอเอ็มบี นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการแนะนำลูกค้าเลือกลงทุนให้ถูกจังหวะผ่านการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ CIMB Thai คัดสรรมาให้ลูกค้า ทั้งหุ้นกู้ในตลาดแรก หุ้นกู้ตลาดรอง หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง เงินฝากดอกเบี้ยสูง เงินฝากสกุลต่างประเทศ (FCD) กองทุน ประกัน บริการ Wealth Credit Line (วงเงินพิเศษเพื่อมอบสภาพคล่องให้ลูกค้าที่มีเงินลงทุนกับธนาคาร)
CIMB ยังพร้อมจูงมือลูกค้าไปลงทุนกองทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะ Alternative Investment มีความน่าสนใจที่ไม่อ้างอิงต่อปัจจัยหลักอย่างทิศทางดอกเบี้ย หรือ ค่าเงิน แต่อยู่บนสินทรัพย์ที่ไปลงทุน โดยปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายธุรกิจและฐานสมาชิก CIMB Preferred (ลูกค้าที่มีเงินฝากหรือเงินลงทุน 3 ล้านบาทขึ้นไป) ให้เติบโตอีก 12% จากปัจจุบันมีลูกค้า 100,000 ราย
การทำธุรกิจของธนาคารจะขับเคลื่อนบนแกนความยั่งยืน หรือ Sustainability สอดรับกับเป้าหมายกลุ่ม CIMB ที่จะบรรลุ Green, Social Sustainable Impacted Products and Services (GSSIPS) จำนวน 1 แสนล้านริงกิต หรือ 7.7 แสนล้านบาท ในปี 2567 โดยปีที่ผ่านมา กลุ่มสินเชื่อรายใหญ่ได้สนับสนุนสินเชื่อความยั่งยืน จำนวน 15,000 ล้านบาท ในการทำงานบนวิถีความยั่งยืนตั้งเป้าหมายจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 36% เทียบกับปี 2562 พร้อมปลุกกระแสสังคมรวมพลังสร้างความยั่งยืนไปด้วยกัน
“เราโฟกัส ASEAN, Digitalization, Wealth & Consumer Finance Solutions และ Sustainability โดยยึดลูกค้าเป็นหัวใจ (Customer-centric) ส่งผลให้เราได้รับการจัดอันดับจาก Rakuten Group ในปี 2566 ให้เป็นธนาคารที่ลูกค้าให้คะแนนความพึงพอใจเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับตลาด (คะแนน NPS : Net Promoter Score) ด้วยคะแนน 85เพิ่มขึ้นจาก 63 ในปีก่อนหน้า เราตั้งเป้าหมายจะรักษามาตรฐานการเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า จึงมีแผนพัฒนาขั้นตอนการให้บริการดียิ่งขึ้นไปอีก เพื่อส่งมอบบริการที่เป็นเลิศผ่านทุกจุดบริการ (Touchpoint) ผ่านแอป สาขา และ Wealth Center สอดคล้องกับค่านิยมของ CIMB Thai ในการเป็น customer-centric organization” พอล วอง กล่าว
