CPN วางรายได้โต10%/ปี 5 ปีซ้อน ลงทุนใหม่ 1.21 แสนล.คุมต้นทุน 3.5%

HoonSmart.com>> เซ็นทรัลพัฒนาตั้งเป้ารายได้โตเฉลี่ยปีละกว่า 10% ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน ใช้เงินลงทุน 1.21 แสนล้านบาท 51% ในมิกส์ยูส-ศูนย์การค้าแห่งใหม่ 17% ปรับปรุงที่พักอาศัย คุมเข้มต้นทุนการเงินไม่เกิน 3.5%

บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา(CPN) ตั้งเป้ารายได้ ไม่ต่ำกว่า 10% ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน นับจากปี 2561 ถึงปี 2571 จากปี 2566 ที่มีรายได้เติบโต 27%

ทั้งนี้ ปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ ธุรกิจให้เช่าและบริการ เติบโต 6-8% ธุรกิจโรงแรมโตกว่า 20% ธุรกิจ ที่อยู่อาศัยโตกว่า 20% โดยจะควบคุมต้นทุนทางการเงินไม่ให้เกิน 3.5% และ ควบคุมอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนหรือ Net D/E อยู่ระหว่าง 0.6-7 เท่า

 

น.ส วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา(CPN) กล่าวว่า นับจากปี 2561 ถึงปี 2571 วางแผนลงทุนทั้งสิ้น 121,000 ล้านบาท ซึ่งปี 2567 จะมีโครงการที่เปิดให้บริการใหม่ทั้งสิ้น 13 โครงการได้แก่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครสวรรค์และเซ็นทรัลนครปฐมโครงการที่อยู่อาศัย 10 โครงการและโรงแรมแห่งใหม่ที่ระยองโดยจับมือกับ International chain ระดับโลกทำให้ในปี 2567 นี้จะมีโครงการศูนย์การค้ารวม 42 โครงการ community Mall 17 โครงการที่อยู่อาศัย 43 โครงการโรงแรม 10 โครงการและออฟฟิศ 10 โครงการ จากปัจจุบันที่มีมิกซ์ยูส 20 โครงการ

ทั้งนี้เงินลงทุน 12,000 ล้านบาท 51% หรือ 74,000 ล้านบาทจะเป็นการลงทุนในโครงการมิกซ์ยูส และศูนย์การค้า โดย 54,000 ล้านบาท ใหญ่อยู่ในโครงการดุสิต เซ็นทรัลปาร์ค , 14,000 ล้านบาทลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการมิกซ์ยูส และ 11,000 ล้านบาทลงทุนศูนย์การค้าแห่งใหม่

อีก 17% หรือ 23,000 ล้านบาทจะใช้ในการปรับปรุงโครงการที่อยู่อาศัย ,11% หรือ 24,000 ล้านบาท ใช้ในการขยายโครงการมิกซ์ยูส

” คาดว่ารายได้ปี 2561 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปี 2566 เพราะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา กำลังซื้อกลับมาแล้ว แสดงให้เห็นว่า ประชาชนมีความเชื่อมั่น และจากการทำศึกษาวิจัยอย่างหนัก ของ cpn เราพบว่า ในช่วงที่มีการ ให้สิทธิประโยชน์ การขอคืนภาษีจากการช้อปปิ้ง ประเทศไทย ติด Top 4 ของโลกในช่วงโควิด ยืนยันว่ากำลังซื้อฟื้นตัวอย่างชัดเจน ในขณะที่ อยากให้เกิดการผลักดัน ธุรกิจท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีการจับจ่ายใช้สอยมากกว่าคนไทย ถึง 10 เท่า จึงอยากให้มีการลดภาษี สินค้านำเข้า ลงอีกจากปัจจุบันอยู่ที่ 30% ทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจ ซื้อของได้ง่ายขึ้น และเพิ่มประเทศในการเปิดฟรีวีซ่าจากปัจจุบันที่อยู่ 2 ประเทศให้มากกว่าเดิม” น.ส.วัลภา กล่าว

น.ส.วัลภา กล่าวว่า ในแต่ละโครงการจะเป็นการสร้างสังคม สร้างเมือง เชื่อมธุรกิจท้องถิ่น พันธมิตร คู่ค้า ลูกค้า เข้าด้วยกันและเติบโตไปด้วยกัน ยิ่งโครงการขนาดใหญ่ จะยิ่งช่วยสร้าง impact ในวงกว้าง ได้สร้างเงินสะพัด ยกระดับ คุณภาพชีวิต ช่วยกระจายรายได้ในจังหวัด พร้อมเชิดชูอัตลักษณ์ไทย และการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพมากขึ้น มีส่วนช่วยผลักดันให้จีดีพีของประเทศให้เติบโต ซึ่งเป็น DNA ในการดำเนินธุรกิจตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา

นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการ กล่าวว่า ในปีนี้จะปรับศูนย์การค้าแบบ turnaround ทั้งหมด 6 ศูนย์การค้า ปักหมุดรอบทิศกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ใช้เงินลงทุน 23,000 ล้านบาทใน 5 ปี

สำหรับ ปีนี้จะมีการเปิดโครงการมิกซ์ เซ็นทรัลนครสวรรค์และเซ็นทรัลนครปฐม จุดเชื่อมต่อภาคตะวันตกอย่างกาญจนบุรี และราชบุรี โดยที่นครสวรรค์จะมีการ สร้าง EcoSystem ร่วมกับโรงพยาบาล สินแพทย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ของทั้งสองฝ่าย ส่วนปี 2568 เตรียมเปิดเซ็นทรัลกระบี่มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท บนพื้นที่ 103 ไร่

นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Fashion and Luxury Partner Management กล่าวว่าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัฒนาเป็น No.1 Destination ที่มีแบรนด์มาเปิด First Store กว่า 76 Brands และ Flagship Stores กว่า 44 แบรนด์ มากที่สุด

ยกตัวอย่างที่ เซ็นทรัลเวิลด์ แบรนด์ดังระดับโลกที่มาเปิด อาทิ Shake Shack, The Cheesecake Factory, Nitori, Lululemon, BHC Chicken รวมถึง Pop Mart ที่เปิดสาขา flagship แรกของประเทศไทยที่เซ็นทรัลเวิลด์ และสาขาล่าสุดที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ประสบความสาเร็จมาก break world record ทำยอดขายเป็นอันดับ 1 จากกว่า 400 สาขาทั่วโลก

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ยังต่อยอดขยายความสำเร็จไปยังสาขาอื่นๆ ทั้งในกรุงเทพและจังหวัดต่างๆ เช่น UNIQLO, Muji, Haidilao, และ Gentlewoman เป็นต้น

“ปีนี้จะมีแบรนด์ใหม่เข้ามา 20 แบรนด์ และแบรนด์หรูเดิมจะมีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัวที่ภูเก็ต และจะมีแบรนด์หรูไปเปิดร้านที่เซ็นทรัลภูเก็ตเพิ่มอีก เช่นแบรนด์ Prada ที่ออกไปต่างจังหวัดครั้งแรก แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อในไทยโดยเฉพาะที่ภูเก็ตมีศักยภาพการใช้จ่ายสูง”นายอิศเรศ กล่าว