TQR ตั้งเป้ารายได้’67 โต 10% รุกธุรกิจใหม่เสริมรายได้หลัก

HoonSmart.com>>ที คิว อาร์ ตั้งเป้ารายได้ปี’67 โต 10% ขยายลงทุนธุรกิจที่ปรึกษาความปลอดภัยไซเบอร์ แพลตฟอร์มฝึกอบรม เสริมรายได้ธุรกิจหลัก ที่รุกออกประกันภัยคาร์บอนเครดิต จับเทรนด์ธุรกิจกรีน ดันเบี้ยเติบโตตามทิศทางอุตสาหกรรมประกันภัย

นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทที คิว อาร์ (TQR) เปิดเผยว่า ปี 2567 ตั้งเป้ารายได้โต 10% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 249.93 ล้านบาท โดยบริษัทขยายธุรกิจใหม่ โดยเข้าถือหุ้น 30% ในบริษัทอัลฟ่าเซคฯ ชำระค่าหุ้นเป็นเงินสด โดยบริษัทดังกล่าวทำธุรกิจเป็นที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่มีโอกาสเติบโตสูง จากการที่ทุกธุรกิจต้องมีการทำงานบนแพลตฟอร์มดิจิทัล และยังเป็นหนึ่งในการกระจายความเสี่ยงการลงทุนที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก

รวมถึงการลงทุนในบริษัทอาร์ สแควร์ฯ54.99% ทำธุรกิจแพลตฟอร์มด้านการฝึกอบรมบุคลากร ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัยอย่างสูง เพราะกลุ่มประกันภัยมีจำนวนบุคลากรที่จำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมความเป็นมืออาชีพตลอดเวลา และในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 3 บริษัทแล้ว

ด้านธุรกิจหลัก นายหน้าประกันภัยต่อ ได้ทำการขยายธุรกิจหลักด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัยแบบใหม่ๆ เพื่อสร้างตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น การออกประกันภัยคาร์บอนเครดิตในไทยร่วมกับบริษัทที่ปรึกษา โดยเริ่มจากการให้ความรู้และความเข้าใจถึงลักษณะของผลิตภัณฑ์ประกันภัยคาร์บอนเครดิตและประโยชน์ให้กับตลาด และได้หารือร่วมกับภาคธนาคารที่ได้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการต่างๆ ภายใต้ Green loan campaign ซึ่งเรื่อง คาร์บอน์เครดิต ESG รถยนต์ EV ไซเบอร์ เป็นโอกาสในการลงทุนรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ

นายสิทธิพร อินทุวงศ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายสนับสนุนงานพัฒนาธุรกิจ บริษัทที คิว อาร์ กล่าวว่า สำหรับปี 2567 มีความท้าทายอย่างมาก โดยภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวทำให้การใช้รถกลับมามีมากขึ้นซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงของลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงความเสี่ยงจากภัยพิบัติ จะทำให้อัตราเบี้ยประกันภัยต่อสูงต่อไป และเงื่อนไขก็ยังไม่เปลี่ยนไป เพราะทุกบริษัทเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติ และสงคราม ความขัดแย้งระหว่างประเทศ จะทำให้ธุรกิจประกันภัยมีความเสี่ยง

สำหรับ ตลาดประกันภัยในเอเชียยังเติบโตต่อเนื่อง การที่ภัยมีความซับซ้อน ทั้งเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์ และการใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดว่าผู้บริโภคในเอเชียและไทย ให้ความสนใจบริษัทประกันภัยในมุมของการเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตให้ดีขึ้น มีสุขภาพที่ดีขึ้น ธุรกิจประกันภัยจึงถูกคาดหวังและได้รับการยอมรับที่มากขึ้น

ด้านธุรกิจประกันภัยในไทย ประกันภัยรถยนต์จะยังเติบโต โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้ามียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกันสุขภาพก็เช่นกัน เพราะประชาชนให้ความสนใจด้านสุขภาพ รวมถึงประกันภัยไซเบอร์ยังเติบโตต่อไปได้อีก เพราะบริษัทต่างๆ ต้องการความคุ้มครองการถูกโจมตีจากไซเบอร์ โดยเฉพาะประกันภัยไซเบอร์โทรศัพท์มือถือ

ปี 2567 คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะโต 4-6% เพราะรถอีวีจะเพิ่มขึ้นอีกมาก งบประมาณภาครัฐกำลังจะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต และการท่องเที่ยวจะกลับมาบูมอีกครั้งจะสนับสนุนประกันภัยให้เติบโตได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ ทั้งราคายา ค่ารับบริการทางการแพทย์ ที่สูงขึ้น ทำให้ประชาชนหันมาทำประกันสุขภาพมากขึ้น สังคมสูงวัย จะทำให้ธุรกิจประกันภัยต้องปรับตัวเพื่อรองรับ และยังเกิดจากสภาพภูมิอากาศ จะทำให้เกิดผลกระทบต่างๆ มากมายต่อสังคมและมนุษย์ ล้วนเป็นโอกาสของธุรกิจประกันภัยในการเข้าไปช่วยบริหารความเสี่ยง