HoonSmart.com>>นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ประเมินบลจ.ตั้งกองทุน Thai ESGX ไม่ต่ำกว่า 50 กองทุน เปิดขายพร้อมกัน 2 พ.ค.-30 มิ.ย.นี้ คาดเม็ดเงินใหม่เข้าลงทุน 2 หมื่นล้านบาท ส่วนเม็ดเงินจาก LTF ย้ายเข้า Thai ESGX คาดไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท ช่วยลดแรงขายพยุงหุ้นไทย แนะโอกาสดีโอน LTF เข้า Thai ESGX ช่วง 2 เดือนรับสิทธิ์ภาษี
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (THAI ESG EXTRA) หรือ Thai ESGX ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการจัดตั้งเพื่อรองรับเงินลงทุนของผู้ที่ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าคงค้างอยู่ประมาณ 1.7 แสนล้านบาทนั้น คาดว่าจะมีการจัดตั้งกองทุนไม่ต่ำกว่า 50 กองทุน จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะเปิดขายพร้อมกัน ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.-30 มิ.ย.2568 นี้ หลังจากบลจ.ยื่นไฟลิ่งขอจัดตั้งกองทุนและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาให้แล้วเสร็จในเดือนเม.ย.นี้
“สมาคม AIMC จะทำการโปรโมทกองทุน Thai ESGX เพื่อเข้าถึงนักลงทุนให้มากที่สุด ขณะเดียวกันบลจ.และบริษัทหลักทรัพย์ก็สื่อสารข้อมูลไปยังลูกค้าพร้อมๆกัน จึงมองแนวโน้มที่นักลงทุนจะโอน LTF มายังกองทุน Thai ESGX เพื่อรับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษีในช่วง 2 เดือนนี้เท่านั้น “นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าว
พร้อมแนะนำนักลงทุนหากไม่มีความจำเป็นใช้เงิน สามารถโอนกองทุน LTF ทั้งหมดมายังกองทุน Thai ESGX ซึ่งกำหนดให้ลงทุนในไทยไม่ต่ำกว่า 80% โดยต้องลงทุนหุ้นไม่ต่ำกว่า 65% ที่เหลือเป็นตราสารหนี้และ ส่วนอีกส่วน 20% ยังเปิดให้ลงทุนหุ้นต่างประเทศได้ จึงมีความหลากหลายของการลงทุน ที่บลจ.สามารถไปลงทุนในตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้ ลงทุนทองคำได้ ทำให้ กองทุน Thai ESGX ช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยไปพร้อมๆ กัน และหาโอกาสในตลาดอื่นๆไปพร้อมกัน
“ประเมินเม็ดเงินจากกองทุน LTF โอนมาถือกองทุน Thai ESGX ไม่ต่ำกว่า 50% จากมูลค่าปัจจุบันหรือไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท รวมทั้งคาดเม็ดเงินใหม่เข้าลงทุน Thai ESGX ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งโดยปกติคนจะใช้เงินช่วงต้นปี และปลายปี ขณะที่ช่วงกลางปีแรงขาย LTF ก็จะเบา และเป็นจังหวะที่เปิดให้โอนย้ายจาก LTF ไปยังกองทุน Thai ESGX ในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย. จึงเชื่อว่าแรงขายหุ้นจาก LTF จะน้อยลงในที่สุดและส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย”นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าว
นอกจากนี้สมาคมเตรียมเสนอให้ก.ล.ต. เปิดเผยประวัติผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนย้อนหลังให้มากกว่าเกณฑ์ปัจจุบันที่ 10 ปี บนเว็บไซด์ของก.ล.ต. เนื่องจากอาจมีผู้บริหารบางรายที่เคยทำผิดในอดีตแต่ผ่านมาแล้วนานกว่า 10 ปี ซึ่งไม่มีข้อมูลที่กระทำผิด ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลนานกว่า 10 ปี ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าว
KTAM ตั้งเป้าปี 68 AUM แตะ 1 ล้านลบ. ลุ้นหุ้นไทย 1,450 จุด แนะ 4 กลยุทธ์ลงทุน