HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวกรอบแนวรับ 1,350 – 1,360 จุด แนวต้าน 1,380 จุด รอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในวันศุกร์ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มเครื่องดื่ม รับอุปสงค์ในช่วงฤดูร้อน ,กลุ่มโรงกลั่น คาดอุปสงค์ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจจีน , เก็งกำไร XPG,BROOK ตามราคา Bitcoin พร้อมเสิร์ฟหุ้น BA, STA
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,350 – 1,360 จุด แนวต้าน 1,380 จุด รอรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในวันศุกร์ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มเครื่องดื่ม ICHI, SAPPE,COCOCO รับอุปสงค์ในช่วงฤดูร้อน ,กลุ่มโรงกลั่น TOP,BCP,BSRC คาดอุปสงค์ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจจีน , เก็งกำไร XPG,BROOK ตามราคา Bitcoin
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง โดยนักลงทุนรอแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของ เจอโรม พาวเวล ต่อสภาคองเกรสในวันพุธ – พฤหัสนี้ และวันศุกร์รายยงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.พ. คาด 190,000 และ ม.ค. 353,000 ราย และอัตราว่างงาน ก.พ. คาดทรงตัวอยู่ที่ 3.7% เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม 12 มิ.ย. ซึ่งคาดมีโอกาสเกิดขึ้น 54.7%
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.23 ดอลลาร์ อยู่ที่ 78.74 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent พ.ค. -0.75 ดอลลาร์ อยู่ที่ 82.80 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยกลุ่มโอเปกพลัสขยายเวลาลดกำลังการผลิตต่อจนถึงสิ้น Q2/67 เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบใน Q2 ที่ระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทองคำ Comex Gold ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่ง 30.60 อยู่ที่ 2,126.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.03% อยู่ที่ 103.832 และคาดหวังเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุม มิ.ย. นี้
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.216 %
ดัชนี BDI วานนี้ +94 จุด อยู่ที่ 2,297
BitCoin เช้านี้ +7.33% อยู่ที่ 68,060 ดอลลาร์สหรัฐ
เช้านี้ติดตาม Caixin PMI ภาคบริการจีน ก.พ. คาด 52.9 & ม.ค. 52.7 และ PMI ภาคบริการญี่ปุ่น ก.พ. คาด 52.5 & ม.ค. 53.1
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 20.00 บาท) บริษัทรายงานผลประกอบการ 4Q66 ขาดทุนสุทธิ 346 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ส่วนใหญ่มาจากค่าตอบแทนพนักงาน การจ่ายเงินโบนัส และค่าซ่อมแซมเครื่องบิน อย่างไรก็ตามสถิติการบินยังคงฟื้นตัวสอดคล้องกับอุตสาหกรรม รวมถึงราคาค่าตั๋วโดยสารที่อยู่ในระดับสูง
ส่วนแนวโน้ม 1Q67 คาดเห็นการพลิกกลับมาเป็นกำไรจากที่เป็น high season ท่องเที่ยว ส่งผลปริมาณผู้โดยสารเติบโต ส่วนราคาค่าตั๋วโดยสารยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากความต้องการในการเดินทางที่ฟื้นเร็วกว่า supply ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A จะลดลงสู่ระดับไตรมาสปกติ ทั้งนี้จากสถิติการบินยังมี room ให้ improve ไปเทียบเท่าช่วง pre-covid ได้ แม้บริษัทจะเพิ่มกำลังการให้บริการได้ช้ากว่าสายการบิน low cost โดยในปี 67 บริษัทตั้งเป้าผู้โดยสาร +13%YoY อยู่ที่ 13 ล้านคน ค่าโดยสาร +5% จากค่าเฉลี่ยปีก่อนที่ 3,756 บาท/คน/เที่ยวบิน
หุ้น STA (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 17.77 บาท) บริษัทรายงานผลประกอบการ 4Q66 ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 422 ล้านบาท -2.9%QoQ -142.7%YoY เป็นผลกระทบมาจาก เอลนีโญ ที่ทำให้น้ำยางออกมาได้น้อย รวมถึงผู้ปลูกยางที่เริ่มหันไปปลูกพืชชนิดอื่นมากขึ้น และ การระบาย Stock ของลูกค้าในกลุ่ม Non-China ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งเป้าหมายในการขายยางไว้ที่ 1.5 ล้านตัน จากการที่ ลูกค้าในกลุ่ม Non-China มีกลายระบายStockสินค้าออกมา ในปีที่แล้วค่อนข้างเยอะ อีกทั้งบริษัทยังมีการส่งเสริมการซื้อขายยางด้วยการใช้งาน Appication ให้การซื้ขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีความพร้อมในการส่งออกตามมาตราฐาน EUDR อีกด้วย