HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 ดัชนีหลักปิดบวก ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 90 จุด ดัชนี S&P 500 ควง Nasdaq พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อแนวโน้มชะลอและการปรับตัวสูงขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ด้าน Nvidia ปิดด้วยมูลค่าตลาดที่สูงกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก “ราคาน้ำมันดิบ WTI” เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 1มีนาคม 2567 ที่ 39,087.38 จุด เพิ่มขึ้น 90.99 จุด หรือ +0.23% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มชะลอและการปรับตัวสูงขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งทำให้ Nvidia ปิดด้วยมูลค่าตลาดที่สูงกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,137.08 จุด เพิ่มขึ้น 40.81 จุด, +0.80%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,274.94 จุด เพิ่มขึ้น 183.02 จุด, +1.14%
ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นสู่ระดับ all-time high ในวันศุกร์ ทำลายสถิติเดิมในปี 2021 เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่าหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลงทุนทามกลางเงินเฟ้อที่ชะลอตัวและกระแสเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มาแรง
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.74% ขณะที่ S&P 500 ซึ่งปิดที่ระดับสถิติใหม่เมื่อวันพฤหัสบดีก็เพิ่มขึ้น 0.95% ทั้งสองดัชนีปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่เจ็ดในรอบ 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.11%
ดัชนี Nasdaq เป็นดัชนีสุดท้ายที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ เมื่อวันพฤหัสบดี การขานรับ AI ได้หนุนหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่และตลาดตลอดทั้งปี 2566 และต่อเนื่องปีนี้ อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัว และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี 2024 ก็มีส่วนช่วยให้ Nasdaq ฟื้นตัวจากปี 2022 เช่นกัน
บริษัทผลิตชิปยักษ์ใหญ่ Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำการปรับขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยีโดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 260% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ยังปรับขึ้นอีก 4% ในวันศุกร์ หุ้นเมตาก็เพิ่มขึ้นกว่า 2% ด้วย
หุ้นเริ่มต้นเดือนมีนาคมจากการขานรับข้อมูลดัชนีรายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ว่าที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้คลายความกังวล และมองว่าเฟดจะมีเหตุผลมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เผยแพร่ในวันศุกร์ สถาบันจัดการด้านอุปทาน(ISM) รายงานดัชนีภาคการผลิตเดือนกุมภาพันธ์ลดลงมาที่ 47.8 จาก 49.1 ในเดือนมกราคม ต่ำกว่า 49.5 ที่นักวิเคราะห์คาดเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16
มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ลดลงมาที่ 76.9 จาก 79.0 ในเดือนมกราคม และต่ำกว่า 79.6 ที่นักวิเคราะห์คาด
และผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.0% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นจาก 2.9% ในเดือนมกราคม ส่วนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 2.9% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมกราคม
กระทรวงพาณิชย์รายงานการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมกราคมลดลง 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.2% และเมื่อเทียบรายปี การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 11.7%
ด้านความเคลื่อนไหวหุ้นรายตัว หุ้นธนาคารระดับภูมิภาค New York Community Bancorp ลดลง 25.9% หลังจากประกาศการเปลี่ยนตัวผู้นำและเปิดเผยปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมภายใน ราคาหุ้นธนาคารได้ลดลงมากกว่า 65% ในปี 2024 นักลงทุนบางรายกังวลว่าจะเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงด้านอสังหาริมทรัพย์ในวงกว้างในอนาคต
ในสัปดาห์หน้านักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัททาร์เก็ต(Target) บริษัทคอสโค (Costco) ในขณะที่ฤดุกาลการแจ้งผลประกอบการใกล้จะสิ้นสุด แต่ยังยังทำให้มีมุมมองทางบวกมากขึ้นและหนุนตลาดไปที่นิวไฮ
นอกจากนี้ยังมีการายงานข้อมูลการจ้างงานเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นข้อมูลให้กับเฟด ที่ยังคงชั่งน้ำหนักข้อมูลทางเศรษฐกิจก่อนการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในปลายเดือนนี้แต่ตลาดคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันและปิดที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์จากหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย รวมทั้งนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่ดีกว่าคาด และมองข้ามข้อมูลเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง
ดัชนีDAX ของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 0.3% และยังทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยเป็นตลาดที่มีผลงานดีที่สุดในบรรดาบริษัทอื่นๆ ชั้นนำในภูมิภาคตั้งแต่ต้นปี 2024
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยีนำการปรับขึ้น โดยต่างเพิ่มขึ้นกว่า 1% ในขณะที่กลุ่มพลังงานก็เพิ่มขึ้นเช่นกันจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 2% ก่อนการตัดสินใจของ OPEC+ เกี่ยวกับข้อตกลงการจัดหา
ในด้านผลประกอบการ หุ้น Daimler Truck เพิ่มเงินปันผลหลังจากประกาศกำไรก่อนหักภาษีปี 2023 ดีกว่าที่คาด ส่งผลให้หุ้นของบริษัทพุ่งขึ้น 18.1% หลังจากคาดการณ์ผลประกอบการปี 2024 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนลดลงเมื่อเดือนที่แล้ว แต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังไม่ลดลง ข้อมูลอีกชุดหนึ่งแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการผลิตยังคงหดตัวเมื่อเดือนที่แล้ว แม้ว่าบริษัทต่างๆ จะมีมุมมองเชิงบวกในปีหน้า โดยเน้นย้ำถึงความกังวลทางเศรษฐกิจบางด้าน
ตัวเลขเงินเฟ้อยังทำให้โกลด์แมนแซคส์ เลื่อนการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโปรป( ECB) ไปเป็นเดือนมิถุนายนจากเดือนเมษายน
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 497.58 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด หรือ +0.60%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,682.50 จุด เพิ่มขึ้น 52.48 จุด, +0.69%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,934.17 จุด เพิ่มขึ้น 6.74 จุด, +0.09%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,735.07 จุด เพิ่มขึ้น 56.88 จุด, +0.32%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.19% ปิดที่ 79.97ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 1.64 ดอลลาร์ หรือ 2.0% ปิดที่ 83.55ดอลลาร์ต่อบาร์เรล