ดาวโจนส์ปิดลบ 62 จุด รอข้อมูลเงินเฟ้อ

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 62 จุด หลังปิดนิวไฮสัปดาห์ก่อน นักลงทุนรอเงินเฟ้อ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 26กุมภาพันธ์ 2567 ที่ 39,069.23 จุด ลดลง 62.30 จุด หรือ -0.16% หลังจากที่ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ทีแล้ว เนื่องจากนักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,069.53 จุด ลดลง 19.27 จุด, -0.38%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,976.25 จุด ลดลง 20.57 จุด, -0.13%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้น และกดดันตลาดหุ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 4.276%

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดวิ่งขึ้น และดัชนีหลัก ๆปิดที่ระดับสูงสุดจากผลการดำเนินงานของ Nvidia อันเป็นผลจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)

ในสัปดาห์นี้นักลงทุนจับตาว่าแรงส่งจาก AI จะไปต่อไปได้หรือไม่ เนื่องจากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อยังมีอยู่ จึงชะลอการลงทุน ในขณะที่รอการรายงานดัชนี PCE ในวันพฤหัสบดีเพื่อประเมินช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย

จอห์น สตอลซ์ฟัส หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ Oppenheimer กล่าวว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อหุ้นเพิ่มขึ้น จากผลประกอบการที่ดีเกินคาด แม้ตลาดมองว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะยังคงระมัดระวังในการพิจารณาว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เมื่อไรและเท่าไร เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงไม่ลดลง

คริส ลาร์กิน จาก E*Trade แห่งมอร์แกนสแตนเลย์กล่าวว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจกลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุน หลังจาก CPI และ PPI ที่ร้อนแรงเกินคาดเมื่อต้นเดือนนี้

อีกทั้งนักลงทุนจับตาการให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในสัปดาห์นี้ รวมไปถึงนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดที่มีกำหนดแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา ในวันที่ 6-7มีนาคม

นอกจากนี้ดัชนี PCE แล้ว ยังมีการรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจอีกหลายชุดในสัปดาห์นี้ ทั้งคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมกราคมในวันอังคาร สินค้าคงคลังค้าส่งเดือนมกราคม ความเชื่อมั่นผู้บริโภค

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อวานได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนมกราคมที่เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบรายเดือน มาที่ 661,000 ยูนิต แต่ต่ำกว่า 680,000 ยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายปีเพิ่มขึ้น 1.8%

หุ้นแอมะซอนลดลง 0.15% หลังเข้าสู่งดัชนี Dow 30 แทน Walgreens Boots Alliance เมื่อวันจันทร์เป็นวันแรก การนำหุ้นเข้าดัชนี Dow ถ่วงน้ำหนักตามราคาหุ้น ไม่ใช่มูลค่าตลาด

หุ้นเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ซึ่งเป็นบริษัทของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ปรับตัวลง 1.9% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากรัฐบาลสหรัฐเตือนว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับบริษัทแปซิฟีคอร์ป (PacifiCorp) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ อย่างไรก็ตามหุ้นเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ปิดตลาดด้วยมูลค่าตามตลาด 1 ล้านล้านดอลลาร์หลังรายงานผลประกอบการที่สูงเป็นประวัติการณ์เป็นปีที่สองติดต่อกัน

หุ้นอัลฟาเบท(Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล ลดลง 4.44% หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเครื่องมือ AI สร้างภาพใน Gemin ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ AI ของบริษัท

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ นำโดยกลุ่มเหมืองแร่ ขณะที่นักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับรายงานภาวะเงินเฟ้อที่สำคัญตลอดทั้งสัปดาห์ เพื่อหาสัญญานช่วงเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางของประเทศใหญ่ๆ รวมถึงธนาคารกลางยุโรป(ECB)

ดัชนี DAX ของเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาค ทำสถิติใหม่ระหว่างวันและปิดระดับสูงสุด โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้น 2.8% ของบริษัทผลิตอาวุธ Rheinmetall

แนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่องของอัตราเงินเฟ้อยูโรโซน ซึ่งกำหนดเผยแพร่ข้อมูลในวันศุกร์ อาจทำให้ความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB ในระยะสั้นเพิ่มขึ้น และกระตุ้นให้หุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงทรงตัวในการประชุมนโยบายเดือนมีนาคมในสัปดาห์หน้า

แดเนียลลา ฮาธอร์น นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Capital.com กล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB มีน้ำหนักมากกว่าธนาคารกลางอื่นๆ เช่นธนาคารกลางสหรัฐ และธนาคารกลางอังกฤษ

ส่วนสหรัฐจะรายงานดัชนี PCE ในวันพฤหัสบดีนี้

หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลง 2.1% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน แต่กลุ่มเทคโนโลยีบวก 0.4% สวนทางตลาด จากการปรับขึ้น 6.5% ของหุ้นบีอี เซมิคอนดักเตอร์ อินดัสทรีส์(BE Semiconductor Industries) ซึ่งจำหน่ายชิ้นส่วนการผลิตชิป

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 495.43 จุด ลดลง 1.82 จุด, -0.37%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,684.30 จุด ลดลง 21.98 จุด, -0.29%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,929.82 จุด ลดลง 36.86 จุด, -0.46%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,423.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.90 จุด, +0.02%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 77.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.11% ปิดที่ 82.53ดอลลาร์ต่อบาร์เรล