HoonSmart.com>>บล.บียอนด์ (BYD)อยู่ระหว่างหาทางออกให้”ไทย สมายล์ บัส”(TSB) ไม่ว่าจะแปลงหนี้เป็นทุน หรือหาพาร์ทเนอร์ มีหลายวิธีคาดอีกไม่นานจะมีคำตอบให้นักลงทุน แต่อย่างน้อยจำนวนผู้โดยสาร (Traffic) ขยับขึ้นมาแตะ 4 แสนคนต่อวันแล้ว หลัง ขสมก.ยอมถอย ส่งผลการดำเนินงานเริ่มเป็นบวกแล้ว พร้อมยืนยันจะไม่เข้าร่วมประมูลโครงการรถเมล์ไฟฟ้า 1,520 คัน
นายจักรกริช เจริญเมธาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานที่ปรึกษาการลงทุนและความมั่งคั่ง บล.บียอนด์ (BYD) กล่าวว่า บริษัท ไทย สมายล์ บัส (TSB) เริ่มเห็นผลการดำเนินงานเป็นบวกแล้ว โดย ขสมก. ยอมถอยไปหลังเกิดปัญหาการวิ่งรถทับซ้อนเส้นทางกัน ทำให้จำนวนผู้โดยสารของรถ TSB ขยับขึ้นมาถึง 4 แสนคนต่อวันหลังผ่านไป 4 ปี ซึ่งจำนวนผู้โดยสารมาช้ากว่าที่ประมาณการไว้
ก่อนนี้ ประมาณการคนขึ้นรถเมล์ 1 ล้านคนต่อวัน เป็นสัดส่วนของ ขสมก. 90% หรือราว 9 แสนคน และอีก 1 แสนคนเป็นรถร่วมต่าง ๆ ส่วน TSB พอเข้ามาก็ประมาณการปีแรกไว้ 3-4 แสนคน และปีที่ 3 ปัจจุบันควรจะต้องขึ้นมา 6 แสนคน แต่ปรากฏว่ามันเกิดการทับซ้อนเส้นทาง ทำให้ Traffic มันไม่มาก พอผ่านมา 3 ปี ถึงพึ่งแตะ 4 แสนคนต่อวัน ตัวเลขเร่งขึ้นหนัก ๆ หลัง ขสมก. ยอมถอยออกไป ในเดือนต.ค.ปีที่ผ่านมา
“จำนวนผู้โดยสารมาช้ากว่าที่เราคาด แต่ว่าการเร่งของทางการทำให้เราต้องจัดหารถเข้ามา เพราะฉะนั้นงบฯไม่ค่อยสวยเท่าไร ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ในการลง Fix Cost เยอะในช่วงต้น ๆ … หลังจากที่มีการตั้งสำรองฯทางคณะกรรมการบริษัทอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะหาทางออกอย่างไรกับ “ไทย สมายล์ บัส” ไม่ว่าจะเป็นการแปลงหนี้เป็นทุน หรือการหาพาร์ทเนอร์ อะไรก็แล้วแต่มันมีหลายวิธี ซึ่งไม่นานนี้จะต้องมีคำตอบให้กับนักลงทุนแล้ว ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสบายใจได้ว่า อย่างน้อยตัว Traffic ตัวรายได้มันเพิ่มขึ้นมา”
นายจักรกริช กล่าวต่อว่า “ไทย สมายล์ บัส”คงจะไม่เข้าร่วมประมูลโครงการรถเมล์ไฟฟ้าที่ ขสมก. ประกาศ 1,520 คัน และก็ไม่ต้องระดมทุนจากไหนด้วย เพราะปัจจุบัน TSB ได้มีกิจกรรม และเร่งเครื่องในการโอเปอเรทอยู่แล้ว และก็เป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกับ ขสมก. ถ้าจะเกิดขึ้นก็คงเป็นบริษัทที่จะผลิตรถต่าง ๆ ที่จะเข้าไปประมูลในอนาคต