โบรกฯยืนเป้า SET ปีนี้ 1,520-1,550 หั่นคาดการณ์ศก.ตามสภาพัฒน์

HoonSmart.com>>สภาพัฒน์ ปรับลดเป้าGDPปี 67 ลง 0.5% เหลือโต 2.2-3.2% หลังปี 66 ขยายตัวเพียง 1.9% นักวิเคราะห์มองหุ้นไม่ Surprise  บล.หยวนต้าฯ ปรับลดเหลือ 3.2%ถอด Digital Wallet คงเป้ากำไรต่อหุ้น-ดัชนี SET ที่ 1,520 จุด เชียร์ CK, BEM, TASCO, SECURE บล.ทิสโก้หั่น GDP โตไม่ต่ำกว่า 3% คงเป้าดัชนี 1,550 จุด รับเหมาเด่น แนะ CK ท่องเที่ยวERW, MINT, SPA รพ.BDMS บล.ฟินันเซียผิดหวังกำไรบจ.Q4/66 หดเป้าหุ้นไม่ถึง 1,520 จุด 

หุ้นที่น่าสนใจลงทุนในปี  2567 มองเป็นหุ้นในกลุ่มค้าปลีก, ท่องเที่ยว, โรงพยาบาล และกลุ่มไฟแนนซ์อาจมาอยู่ในเรด้า แต่ต้องรอให้ดอกเบี้ยลงก่อน ซึ่งกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ก็ดี เช่น  GPSC ที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับตัวลง, ค่าไฟฟ้าขึ้น, ค่าก๊าซฯปรับลง

เช้าวันที่ 19 ก.พ.2567  สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ประกาศปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2567 เหลือเติบโต 2.2-3.2% (ค่ากลางที่ 2.7%) จากเดิมคาดโตราว 2.7-3.7% หลังจากปี 2566 ขยายตัว 1.9% ชะลอตัวลงจากระดับ 2.5% ในปี 2565 โดยเฉพาะไตรมาสที่ 4/66 เติบโต 1.7% ต่ำกว่าที่กระทรวงการคลังช็อคตลาดโต 1.8% นำไปสู่การปรับลดเป้าปีนี้เหลือโต 2.8%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับประมาณการปีนี้ลงมาอยู่ที่ 2.6% จากเดิม 3.1% คาดไตรมาสแรกจะทรงตัวจากไตรมาสก่อน  แม้ว่ายังไม่อนุมัติงบประมาณปี 2567 แต่มีความเป็นไปได้ที่ภาครัฐจะเร่งเบิกจ่าย ขณะที่การส่งออกไทยก็คาดว่าจะทรงตัวตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น

ความเห็นของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์  โดยนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ไม่ Surprise ตลาดหุ้น เพราะตัวเลขของสภาพัฒน์เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังได้ให้ข้อมูลมาก่อนหน้านี้แล้ว และแม้ว่ามีการปรับลดคาดการณ์การเติบโตของปี 2567 เหลือโต 2.2-3.2% ก็ยังดีกว่าปี 2566 ที่โตแค่ 1.9% น่าจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณได้มากขึ้น

อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยได้มีการปรับลด GDP ปี 2567 ลงเหลือโต 3.2% จากเดิมคาดโต 3.8% โดยถอด Digital Wallet ออกไป แต่ยังคงเป้าหมายดัชนี SET  ไว้ที่ 1,520 จุด กำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 92 บาท โดยกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนในปีนี้อยู่ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง และวางระบบไอที จากการลงทุนโครงสร้างของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นจากการเร่งใช้จ่ายงบประมาณ โดยแนะนำหุ้น CK, BEM, TASCO, SECURE

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า มีโอกาสที่ฝ่ายวิจัยจะปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้ลงตามสภาพัฒน์เหลือไม่ต่ำกว่า 3% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 3.5%  ถือว่าลงไม่มาก เพราะไม่ได้รวม Digital Wallet ไว้ในประมาณการอยู่แล้ว และฐานปี 2566 ต่ำ ทำให้เห็นการเติบโตดีในปี 2567

สำหรับเป้าหมายดัชนี SET ปี 2567 จะยังคงไว้ที่ 1,550 จุด เพราะมองว่าเป็นเป้าหมายที่ต่ำอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับ Consensus ที่ส่วนใหญ่จะให้ระดับ 1,600 จุดขึ้นไป ส่วน EPS คาดไว้ที่ 86.7 บาท ทั้งนี้ จะต้องจับตาดูว่าในครึ่งหลังปี 2567 ภาครัฐจะขับเคลื่อนอะไร รวมถึงการลงทุนของภาครัฐ และเอกชน  รัฐน่าจะมีการเบิกจ่ายงบมาใช้ในโครงการของรัฐฯ ดังนั้นมองหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะดี  แนะนำหุ้น CK ราคาเป้าหมาย 26 บาท ส่วนกลุ่มท่องเที่ยวไปได้ดีอยู่แล้ว จึงแนะนำหุ้น ERW ราคาเป้าหมาย 6.5 บาท, MINT ราคาเป้าหมาย 39 บาท, SPA ราคาเป้าหมาย 15.1 บาท และกลุ่มโรงพยาบาล แนะนำหุ้น BDMS ราคาเป้าหมาย 37 บาท

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า กำไรของบจ.ในไตรมาส 4/66 ต่ำกว่าคาด จึงมีโอกาสที่จะปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลง ส่งผลต่อเป้าหมายดัชนี SET ปี 2567 ลงด้วย  ตอนนี้ให้ไว้ 1,520 จุด EPS 95 บาท เทรด P/E 16 เท่า

หุ้นที่น่าสนใจลงทุนในปี  2567 มองเป็นหุ้นในกลุ่มค้าปลีก, ท่องเที่ยว, โรงพยาบาล และกลุ่มไฟแนนซ์อาจมาอยู่ในเรด้า แต่ต้องรอให้ดอกเบี้ยลงก่อน ซึ่งกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ก็ดี เช่น  GPSC ที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับตัวลง, ค่าไฟฟ้าขึ้น, ค่าก๊าซฯปรับลง

ตลาดหุ้นวันที่ 19 ก.พ.2567 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,387.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.06 จุด หรือ +0.08% มูลค่าซื้อขาย 31,776.98 ล้านบาท ฝีมือนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,223 ล้านบาท ส่วนของไทยขายทั้ง 3 กลุ่ม นำโดยสถาบัน 683.90 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 381.66 บาท รายย่อย  157.55 ล้านบาท

ส่วนหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ฝั่งยุโรปติดลบเล็กน้อย  คาดตลาดวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) เคลื่อนไหวทรงตัว มีกรอบการแกว่ง 1,380-1,395 จุด